วินาทีครอบครัวพบหน้า หลังถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ที่ สปป.ลาว

348

หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยว่าได้ช่วยเหลือนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ อายุ 54 ปี ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อ.เชียงแสน หลังจากถูกลักพาตัวในฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และยังถูกเรียกค่าไถ่จำนวน 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ช่วยเหลือได้ในเวลาประมาณ 11.00 น. โดยทางเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีคนไทยขอความช่วยเหลือบริเวณโกดังเก็บปูน เขตเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว จังได้ไปทำการตรวจสอบ และพบว่าเป็นนายสิงห์แก้ว จึงได้ทำการช่วยเหลือไว้ได้ในที่สุด

 

 

จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยก็ได้นำภรรยาและบุตร เดินทางไปยัง สปป.ลาวเพื่อให้ครอบครัวได้พบหน้ากันอีกครั้ง ซึ่งได้มีการถ่ายคลิปโดยเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นภาพที่นายสิงห์แก้ว กับภรรยาและลูกโผเข้ากอดกันท่ามกลางความปลื้มปิติ ของเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปด้วย

 

 

จากนั้นใน เวลา 17.00 น.วันที่ 30 ก.ค.62 ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เชียงแสน จ.เชียงราย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.ได้เดินทางมาตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้ช่วยเหลือนายสิงห์แก้ว โดย เจ้าหน้าที่ได้สรุปเหตุการณ์กรณีลักพาตัวนายสิงห์แก้วว่าเหตุเกิดตั้งแต่ 13.00 น.วันที่ 28 ก.ค.หลังจากที่นายสิงห์แก้วนั่งเรือจากจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ข้ามไปยังจุดผ่านแดนถาวรของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกันนายสะหวาดและนางสมจิดซึ่งคนขับรถชาวลาวและนายจุ๋ม หุ้นส่วนบริษัทของนายสิงห์แก้ว เพื่อจะพาไปพบกับนายอาเหว่ยชาวจีนที่รัฐวิสาหกิจฟาร์มหมูบ้านร่มเย็น แขวงบ่อแก้ว โดยมีนายสะหวาดเป็นคนขับ เมื่อไปถึงบริเวณปาช้าบ้านดอนสวรรค์ได้มีกลุ่มคนขับรถเข้าขวางแล้วใช้ปืนบังคับให้เดินทางไปกับรถอีกคัน ก่อนจะมีการส่งข้อความและคลิปเรียกค่าไถ่ จนเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยประสานขอความช่วยเหลือไปยังเมืองต้นผึ้งให้ช่วยติดตามค้นหา จนได้พบตัวนายสิงห์แก้วสภาพไม่สวมเสื้อโดยมีเพียงกางเกงยีนส์สีเข้มเดินอยู่ด้านหลังโรงแรมแห่งหนึ่งของโครงการคิงส์โรมันซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ห่างออกไปประมาณ 700 เมตร จึงให้การช่วยเหลือและพาไปตรวจร่างกายไม่พบบาดเจ็บอย่างหนัก มีเพียงบาดแผลเล็กน้อยส่วนตามตัวมีแผลจากการหลบหนีและมีอาการอิดโรย

 

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ สปป.ลาวจะได้ทำการสอบปากคำอีกครั้งก่อนจะทำการส่งมอบให้กับทางการไทย ซึ่งคาดว่าจะช่วงบ่ายของวันที่ 31 ก.ค. ที่บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 เชียงของ -ห้วยทราย โดยทาง ผบช.สตม.จะไปรับตัว นายสิงห์แก้ว พร้อมกับคณะด้วย

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.