ยันรถไฟเด่นชัย-ชร.เดินหน้าอีก2ปี

28

ที่ห้องประชุมดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท อ.เมือง นายบุญสม เลิศหิรัญกุล ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมผู้ว่าการรถไฟอาเซียน ครั้งที่ 35 โดยมีผู้ว่าการรถไฟจากประเทศต่างๆ และคณะผู้ติดตามจากประเทศไทย มาเลเซีย กัมพูชา พม่า ลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย เข้าร่วมครบครัน ซึ่งนายบุญสมแจ้งว่าในปัจจุบันหลายประเทศรณรงค์เรื่องลดภาวะซึ่งการคมนาคมด้วยรถไฟ (Rail for the Greener ASEAN Commectivity) ถือเป็นทางเลือกที่ลดมลภาวะได้ดีที่สุดอีกแขนงหนึ่ง ดังนั้นเรื่องนี้จึงจะเป็นหัวข้อหลักในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในการประชุมครั้งนี้

นายบุญสม กล่าวว่ากรณีประเทศมาเลเซียมีเส้นทางคมนาคมด้วยรถไฟที่ทันสมัยมากขึ้นนั้น ต้องยอมรับว่าขนาดประเทศของมาเลเซียน้อยกว่าของไทยกว่า 10 เท่า และช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมาแต่ละรัฐบาลของไทยมีการพัฒนาการรถไฟที่แตกต่างกันทำให้เกิดข้อจำกัดในการพัฒนา ดังนั้นในปัจจุบัน รฟท.จะเดินหน้าพัฒนาเส้นทางรถไฟของไทยอย่างต่อเนื่องและด้วยปัจจัยที่เกื้อหนุนเชื่อว่าภายในไม่เกิน 10 ปีนับจากนี้จะกลับมาสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยเหมือนเดิมต่อไป

ด้านนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ รฟท.กล่าวว่าการประชุมหารือกันในครั้งนี้เพื่อให้แต่ละประเทศได้แสดงการพัฒนาเส้นทางรถไฟในแต่ละประเทศ เพราะในอนาคตเรามุ่งหวังที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันจึงจำเป็นต้องทราบเส้นทางและรูปแบบทางรถไฟของแต่ละประเทศเพื่อแต่ละฝ่ายจะได้นำไปวางแผนเชื่อมโยงถึงกันได้โดยสะดวกมากขึ้น เช่น มาเลเซียที่ทำเส้นทางทำเส้นทางรถไฟมาจ่อที่ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา โดยทำลึกเข้ามาในเขตไทยประมาณ 300 เมตรเพื่อเป็นศูนย์ขนถ่ายสินค้า ฯลฯ สำหรับประเทศไทยก็จะได้แสดงให้ถึงโครงการที่จะใช้งบประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาทั้งระบบโดยนอกจากรถไฟความเร็วสูงแล้วยังมีระบบรถไฟรางคู่แทนเส้นทางเดิมทั้งหมด ทั้งกับมาเลเซีย กัมพูชา พม่า ลาว ทั้งขนคนและสินค้า

สำหรับประเทศจีนนั้นมีความต้องการรถไฟความเร็วสูงเป็นหลัก ปัจจุบันทำเส้นทางผ่าน สปป.ลาว มาทาง จ.หนองคาย แต่เนื่องจากประเทศไทยเรามีโครงการจะพัฒนาเส้นทางสาย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ไปยัง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว ทางภาคเหนือด้วยงบประมาณ 2.2 ล้านล้านบาทดังกล่าว หลังจากเส้นทางนี้ศึกษาและยืดเยื้อมานานร่วม 40 ปี จึงทำให้ทางการจีนอาจเพิ่มเส้นทางผ่าน สปป.ลาว มาเชื่อมกับเส้นทางของไทยได้ต่อไป ทั้งนี้จากการที่มีการศึกษาเส้นทางสายเด่นชัย-เชียงราย มานานหลายรอบแล้วนั้น ต่อไปนี้จะไม่มีการศึกษาเพิ่มเติมอีกแต่จะนำแผนเดิมมาปรับและดำเนินการเพราะการทำประชาคมไม่น่ามีปัญหาเพราะภาคประชาชนมีความต้องการเส้นทางสายนี้สูงอยู่แล้ว คงเหลือเพียงการรอข้อกฎหมายที่จะประกาศบังคับใช้จากนั้นไม่น่าจะเกิน 1-2 ปีจะสามารถเดินหน้าก่อสร้างเส้นทางนี้ได้ต่อไป

สำหรับการเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางบ่อยครั้งนั้นต้องยอมรับว่าเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาการใช้งาน ไม้หมอนเก่า อายุเครื่องจักรก็นานนับ 40 ปีทำให้บางตัวแทบไม่มีอะหรั่ยซ่อมบำรุงแล้ว ฯลฯ แนวทางแก้ไขคือจะมีการจัดซื้อหัวจักรใหม่ประมาณ 20 หัวจากประเทศจีน ซึ่งเราไม่ได้เน้นว่าต้องมาจากไหนแต่เน้นว่ามีคุณภาพที่ดี

“สำหรับการทำการซ่อมแซมเส้นทางรถไฟสายภาคเหนือที่มีกำหนดดำเนินการจนถึงเดือน ต.ค.นี้ ปัจจุบันก็ได้ขอขยายระยะเวลาไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย.นี้แล้ว เพราะเมื่อได้เข้าไปสำรวจจริงๆ พบว่ามีจุดชำรุดมากกว่าที่คิด ซึ่งอาจจะกระทำกับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลลอยกระทงซึ่ง รฟท.ต้องขออภัยด้วยอย่างยิ่ง แต่เชื่อว่าหลังจากนั้นจะใช้ได้ตามปกติโดยเฉพาะไฮด์ซีซั่นด้านการท่องเที่ยวฤดูหนาวนี้” นายประภัสร์ กล่าวและว่าสำหรับเส้นทางสายภาคใต้คงต้องมีการสำรวจเพื่อการซ่อมแซมกันต่อไปโดยหากมีความจำเป็นก็ต้องปิดเส้นทางชั่วคราวเช่นกัน แต่จะมากหรือน้อยต้องสำรวจอีกครั้งแต่เชื่อว่าจะไม่ใช้เวลายาวนานเพราะส่วนใหญ่เป็นเส้นทางราบไม่มีภูเขาสูง.

_DSC0125 _DSC0112 _DSC0121

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.