ค่ำวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาเรือยนต์ของ นรข.เขตเชียงราย ได้เกิดพลิกคว่ำ ขณะกำลังทำการเรือกาสะลองคำ ที่จมในแม่น้ำโขง โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารเรือ 4 นายพยายามควบคุมเรือและใช้เชือกลากเรือแม่โขงเดลต้า ร่วมกับเรือและอุปกรณ์อื่นๆ แต่ถูกกระแสน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลเชี่ยวพัดขณะขวางลำจนคว่ำ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทหารเรือใช้ความชำนาญสามารถว่ายน้ำเข้าฝั่งไปได้รวมทั้งสามารถนำเรือยนต์ของเจ้าหน้าที่ขึ้นฝั่งได้สำเร็จโดยเครื่องยนต์ไม่ได้รับความเสียหายมากนักโดยสามารถซ่อมแซมได้
โดยระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังได้เพิ่มสูงขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมาเขื่อนจิ่งหง ในเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งอยู่ห่างขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 300 กิโลเมตร ได้ระบายน้ำจากเขื่อนลงมาในอัตรา 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก่อนที่จะลดลงในวันที่ 9 ส.ค.ในอัตรา 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีแต่มวลน้ำที่ปล่อยมาช่วงวันก่อนได้ไหลลงถึง อ.เชียงแสน ภายใน 2-3 วัน ทำให้ล่าสุดเช้าวันที่ 10 ส.ค.ระดับน้ำหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน ลึกประมาณ 4.44 เมตรซึ่งถือว่าลึกที่สุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา
นายปกรณ์ สุริวรรณ นายอำเภอเชียงแสน กล่าวว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้วางแผนจะใช้เครนดึงขึ้นมาให้พ้นน้ำก่อน จากนั้นจะทำการสูบน้ำออกเพื่อให้มีน้ำหนักเบาและชักลากไปไว้ตรงจุดที่จัดเตรียมเอาไว้ คาดว่าเย็นวันที่ 10 ส.ค.นี้จะสามารถทำได้สำเร็จเพราะได้ระดมกำลังทุกฝ่ายเข้าปฏิบัติการ
ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และกรรมการผู้จัดการบริษัทแม่โขงเดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด เจ้าของเรือดังกล่าว กล่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการถอดบทเรียนคล้ายกรณีเหตุการณ์ช่ถ้ำหลวง เมื่อปี 2561 เพราะทุกฝ่ายได้กลับมาช่วยเหลือกันอีกครั้งและเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตรงชายแดนไทยด้านนี้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเรือมีน้ำหนักมากทำให้ต้องซักซ้อมกันแต่ละหน่วย และล่าสุดทางผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้อนุเคราะห์อนุมัติให้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไปสนับสนุนคาดว่าจะนำเรือขึ้นมาตรวจสอบได้ในวันเดียวกันนี้ และหากไม่ได้ผลก็มีแผนการณ์ถัดไปคือจะใช้เรือกาสะลอง 1 และเรือกาสะลอง 2 ที่มีขนาด 2 เครื่องยนต์ความแรงกว่า 670 แรงม้าทำการดันร่วมกับเครนและกำลังพลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.