เวลา 13.00 น.วันที่ 18 ก.ย.63 ที่ห้องประชุม โรงแม่โขงเดลต้า อ.แม่สาย จ.เชียงราย นางสาวผกายมาศ เวียรร์รา รองประธานหอการค้าจัหวัดเชียงราย ในฐานะ ประธานหอการค้า อ.แมสาย และประธานสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา สาขา จังหวัดเชียงราย ได้จัดให้มีการลงทะเบียนคนขับรถ และผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ระหว่างชายแดน ไทย-เมียนมา ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ จ.ท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมา เพื่อจะทำการลงทะเบียนรถบนต์ชนิดต่างๆที่ใช้รการขนส่งสินค้าเพื่อให้ได้โคควต้าในการขนส่ง ไม่เกิน 168 คันต่อวัน ต่อประเทศ โดยมีผู้ประกอบการมาลงทะเบียนกว่า 330 คัน
โดยการลงทะเบียนในครั้งนี้มีผู้ประกอบการไทยและเมียนมา เดินทางมาลงทะเบียนเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะได้สามารถขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนได้เช่นเดิม หลังจากเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมาทางการเมียนมาได้ออกมาตราการเพื่อจำกัดการขนส่งสินค้าจากไทยข้ามพรมแดนได้เพียง 6 คันต่อวัน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ที่บริเวณด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดน ไทย- เมียนมา มีรถบรรทุกนับ100 คัน มาจอดรอเพื่อนำสินค้าทั้งวัสดุก่อสร้าง สินค้าทางการเกษตร สินค้าเบ็ดเตล็ด รวมไปถึงน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อรอข้ามไปส่งยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา กล่าวว่า ได้จัดประชุมผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกที่สำนักงานหอการค้า จ.เชียงราย โดยจัดให้มีการลงทะเบียนรถที่ใช้ขนส่งสินค้าผ่านแดนดังกล่าวและได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าที่ผ่านมาอาจเกิดความเข้าใจผิดว่าทางการไทยมีการเปิดให้รถยนต์ตู้ขนสินค้าข้ามสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ได้จำนวน 168 คันแต่ให้รถป้ายทะเบียนไทยเป็นส่วนใหญ่และเป็นผลทำให้ทางท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก จำกัดจำนวนรถที่มีป้ายทะเบียนของไทยและเมียนมาฝ่ายละ 6 คันแต่ล่าสุดได้รับการประสานจากนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ว่าการกำหนดจำนวนรถทั้ง 168 คันดังกล่าวไม่ได้หมายถึงเฉพาะรถตู้เท่านั้นแต่หมายถึงรถทุกชนิดและไม่จำกัดว่าจะเป็นป้ายทะเบียนของประเทศใด และหากว่าทางประเทศเมียนมามีรถยนต์บรรทุกสินค้าที่มีป้ายทะเบียนของประเทศเมียนมาก็สามารถนำมาจดทะเบียนเพื่อขนส่งสินค้าได้
โดยเบื้องต้นมอบหมายให้ทางหอการค้า อ.แม่สาย ได้ประสานกับทาง หอการค้า จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ให้ได้ทำความเข้าใจกัน จะได้ดำเนินการในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ นี้ โดยให้มีการนำรถบรรทุกทำการจดทะเบียนตามจำนวน 168 คันเพื่อขนส่งสินค้าให้ทันวันเปิดทำการให้เร็วที่สุดเพื่อเร่งระบายสินค้าที่เข้ามาสะสมมากขึ้นทุกวัน ซึ่งในขณะนี้มีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 80-100 ล้านบาทต่อวัน สำหรับกรณีของรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงที่จอดอยู่เป็นจำนวนมากจะให้ส่งออกก่อนเพื่อความปลอดภัยโดยเร็วที่สุดเป็นอันต้นๆ ก่อน หลังนี้จะได้นำข้อมูลทั้งหมดส่งให้ทางจังหวัดเชียงราย และทางการเมียนมา เพื่ออฟังผลจากทาง จ.ท่าขี้เหล็ก ต่อไป
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.