ช่วงสายวันที่ 23 ม.ค.57 ที่ผ่านมาญาติของ นายวิชา พรหมยงค์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทดอยช้างคอฟฟี่ออริจินอล จำกัด ผู้ก่อตั้งกาแฟดอยช้าง ได้นำตัวนายวิชา พรหมยงค์ เข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน ที่โรงพยาบาลแม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย หลังจากที่เกิดอาการหมดสติโดยทางแพทย์ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจแต่ก็ไม่ได้สติแต่อย่างใด และได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ใน 63 ปี จากนั้นทางโรงพยาบาลจึงได้ให้ญาตินำศพไปพระกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่บ้าน ใน.ชุมชนริมกก ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย และได้ทำพิธีฝังศพที่สุสานอิสลาม ชุมชนเด่นห้า เขตเทศบาลนครเชียงราย
ด้านนายปณชัย พิสัยเลิศ หรืออาเดล อดีตผู้ใหญ่บ้านดอยช้างผู้ร่วมก่อตั้งกาแฟดอยช้าง กล่าวว่าการเสียชีวิตของนายวิชาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยก่อนที่จะเสียชีวิตไม่มีอาการเจ็บป่วยใดๆ หรือมีอาการผิดปกติแต่อย่างใดมาก่อน ซึ่งก่อนเกิดเหตุยังไปทำงานที่บนดอยช้างตามปกติ จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น.วันที่ 23 ม.ค.57 ได้ออกมาทำงานที่อาคารของบริษัทบนดอยช้างและเตรียมพักรับประทานอาหารเช้าโดยนายวิชา ก็นั่งรออาหารที่เสิร์ฟไปให้ที่โต๊ะ แต่ปรากฎว่าเมื่อคนเสิร์ฟนำอาหารไปถึงนายวิชา ก็ล้มลงหมดสติตั้งแต่ตอนนั้นและได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับนายวิชา พรหมยงค์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทดอยช้างคอฟฟี่ออริจินอล จำกัด ผู้ก่อตั้งกาแฟดอยช้าง เดิมเป็นชาวกรุงเทพฯ ซึ่งชอบเดินทางตามป่าเขาในพื้นที่ จ.เชียงราย และประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อ 30 ปีก่อนได้เดินทางมาที่ดอยช้าง และพบว่ามีโครงการหลวงเข้ามาพัฒนาพื้นที่ดอยช้างและส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกพืชทดแทนพืชเสพติด เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จากนั้นได้มีองค์กร ไทย – เยอรมัน นำเมล็ดกาแฟมาแนะนำให้ชาวบ้านอาข่า และลีซู จำนวน 40 ครอบครัวทดลองปลูกบนดอยช้าง ซึ่งได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ แต่ในขณะนั้นการจำหน่ายผลผลิตกาแฟต้องผ่านพ่อค้าคนกลางที่รับซื้อซึ่งผู้ปลูกถูกกดราคา เพียงกิโลกรัมละ 10 บาทเท่านั้น ทั้งที่ราคาขายเมล็ดกาแฟในท้องตลาดมีราคาสูงถึงกิโลละ 50-60 บาท
นายวิชา จึงได้ร่วมกับทางชาวบ้านในการปลูกและจัดการหาตลาดให้กับชาวบ้านโดยตรงไม่ผ่านมือพ่อค้าคนกลาง จากนั้นได้พัฒนาเมล็ดกาแฟดอยช้าง โดยได้ส่งเมล็ดกาแฟไปให้ผู้ทีมีความรู้ทางด้านกาแฟทั้งในและต่างประเทศตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งผลปรากฎว่ากาแฟดอยช้างมีผลผลิตคุณภาพเกรดเอ จากนั้นพัฒนาการตลาดและพัฒนาระบบการผลิตเรื่อยมาด้วยเงินทุนเพียงประมาณ 350,000 บาท กระทั่งปัจจุบันมีสถานที่ปลูกและโรงงานแปรรูปกาแฟดอยช้างบนดอยช้างจนสามารถแปรรูปกาแฟได้ราคากิโลกรัมละกว่า 40,000-50,000 บาท ภายใต้โลโก้กาแฟดอยช้างที่เป็นรูปศีรษะคนซึ่งคุ้นตานักจิบกาแฟซึ่งก็เป็นรูปของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ร่วมกันมาตั้งแต่ต้นบนดอยช้าง
ปัจจุบันมีไร่กาแฟบนดอยช้างที่ไม่น้อยกว่า 20,000 ไร่ และกลายเป็นกาแฟส่งออกของผลผลิตทั้งหมดกว่า 70% ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทยได้ปีละกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท มีโรงผลิตกาแฟและบรรจุหีบห่อรวมทั้งสถาบันกาแฟบนดอยช้าง โดยเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเพียงเล็กๆ เพียงหมู่บ้านเดียว
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.