ไม่มีปาฏิหาริย์ หลังพบหนุ่มโดดสะพานน้ำยมบ้านหาดลี่ ลอยขึ้นมาห่างที่เกิดเหตุ500เมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่  อำนวยการโดย นายนคร สายยืด  นายอำเภอสูงเม่น/ผู้บัญชาการเหตุการณ์ สั่งการฝ่ายปกครอง/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลสบสาย ดำเนินการช่วยเหลือค้นหาคนจมน้ำกลางดึกคืนวันที่ 1 สิงหาคม 2566 เวลา 23.00 น. ได้รับแจ้งจาก นายอุทิตย์ จินดา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลสบสาย อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ว่ามีนาย ธีรพล (นที)สายทอง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.4 ต.สบสาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ ได้กระโดดสะพานข้ามแม่น้ำยม ม.4 ต.สบสาย อ.สูงเม่น จ.แพร่

หลังรับแจ้ง จึงแจ้งให้กู้ภัยสูงเม่น และชาวบ้านใกล้เคียง ค้นหาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง จึงได้ยุติการค้นหาเนื่องจากสภาพอากาศไม่อำนวยในการค้นหา  ต่อมาเช้าวันนี้ 2 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ณ บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสบสาย น.ส.บุษบา เดือนดาว ศูนย์ฯ ระดับท้องถิ่น และเริ่มการค้นหาต่อ ตั้งแต่เวลา 10.00 น

จนกระทั่งเมื่อเวลา 13.50 น. ช่วงบ่ายวันที่ 2 ส.ค.66 หน่วยกู้ภัยแพร่ และชุดค้นหาที่ร่วมกันค้นหาร่าง นายธีรพล (นที)  ที่กระโดดสะพานต่อหน้าเพื่อนขณะมานั่งสังสรรค์กลางสะพานคืนวันเข้าพรรษา ที่ผ่านมาทางชุดค้นหาได้พบร่างของนที ลอยคว่ำหน้าขึ้นมาข้างฝั่ง ห่างจากจุดที่กระโดดลงสะพานล่องน้ำไปทางทิศใต้ประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นวังน้ำลึก ชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันว่า ” วังปู่หมู “ สภาพศพนุ่งกางเกงขาสั้น ส่วนสร้อยพระที่แขวนยังอยู่ครบ ทางบิดา- มารดาพร้อมญาติพี่น้องได้มาดูศพหลังจากเรือกู้ภัย นำศพไปขึ้นที่บริเวณฝายน้ำล้น ท่าน้ำบ้านวังวน

ต่อมาพ.ต.ท.พุทธิวัฒน์ วงค์ศิริธนดล สารวัตรสอบสวน สภ.สูงเม่น พนักงานสอบสวนประจำวันสภ.สูงเม่น  ตรวจบันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐานร่วมชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เวร ร.พ.สูงเม่น ก่อนสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์  เพื่อหาสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุ ก่อนนำศพไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดที่ ร.พ.สูงเม่น หากญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จะได้มอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ในการนี้ นายนคร สายยืด นายอำเภอสูงเม่นได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานร่วมภารกิจ ฝ่ายปกครองอำเภอสูงเม่น องค์การบิรหารส่วนตำบลสบสาย หน่วยกู้สูงเม่น,แพร่,เด่นชัย และ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีผู้ปฎิบัติภารกิจในวันนี้ 50 นาย ด้วย

สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์/แพร่

แสดงความคิดเห็น