ชั่งตวงวัดขอนแก่นลุยตรวจปั้มน้ำมันทั้งจังหวัด ตอกย้ำมาตรฐานการให้บริการไม่เอาเปรียบผู้บริโภค “กัมปนาท” ย้ำชัดใหญ่แค่ไหนก็จับ ขณะที่ ส.ส.ก้าวไกล ระบุ เตรียมเสนอแผนจัดตั้งกรมชั่งตวงวัดหลังพบบทบาทหน้าที่เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคเยอะมาก

2

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 ส.ค. 2566 ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.สาขา ขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ริม ถ.มิตรภาพ ติดกับสถานีตำรวจทางหลวงขอนแก่น นายกัมปนาท ยุทธศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ชั่งตวงวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดลงพื้นที่ตรวจสอบการให้บริการและตรวจมาตรฐานของหัวจ่ายน้ำมัน หลังพบว่าสถานีบริการน้ำมันแห่งนี้ครบกำหนดการตรวจประจำปีตามที่ สำนักงานช่างตวงวัดกำหนด โดยมีทีมวิศวกรจากน้ำมัน ปตท.โออาร์, เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อมูลและทำการตรวจสอบการให้บริการของหัวจ่ายน้ำมันทุกจุดที่ครบกำหนดการต่ออายุ โดยมีนายอิทธิพล ชลธราศิริ ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคก้าวไกล ร่วมสังเกตุการณ์ด้วย

นายกัมปนาท ยุทธศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ชั่งตวงวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) กล่าวว่า สถานีบริการน้ำมันแห่งนี้ เป็นสถานบริการน้ำมันภายใต้การบริหารของ ปตท.โดยตรง และวันนี้ครบกำหนดรอบตรวจประจำปี เนื่องจากหัวจ่ายน้ำมันของสถานีบริกาน้ำมันนั้นจะมีรอบการตรวจสอบมาตรฐานทุก 2 ปี ดังนั้นวันนี้คณะทำงานจึงได้นำระบบทดสอบด้วยรถตรวจสอบมาตรฐานชั่งตวงวัดแบบเคลื่อนที่มาทำการตรวจสอบหัวจ่ายที่สถานีริการน้ำมันแห่งนี้ทุกหัวจ่าย โดยมีทีมวิศวกรของบริษัทฯ มาประสานและให้ข้อมูลและร่วมตรวจสอบตามขั้นตอนที่กำหนด

“ ในการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันนั้นจะตรวจสอบเริ่มจากภายนอก คือดูว่าหัวจ่ายพร้อมใช้งานหรืออยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ ไม่ว่าจะเป้นป้ายแสดงการตรวจของเจ้าหน้าที่ที่มีอายุ 2 ปีต่อการตรวจ 1 ครั้ง หัวจ่ายหือระบบมาตรวัตรหือระบบแสดงผล นั้นอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ ซึ่งหากด่านแรกตรงนี้พบว่ามีข้อผิดพลาด ก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 20,000 บาท,ซึ่งเมื่อผ่านขั้นตอนแรกก็จะเข้าสู่การเปิดฝาครอบเพื่อตรวจสอบภายใน ซึ่งในการเปิดนั้นหากพบว่าตัวล็อคที่ทางราชการออกให้ที่ติดตั้งอยู่ภายในตู้ขาด ก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาทเช่นกัน และเมื่อการตรวจสอบ 2 ขั้นตอนแรกแล้วเสร็จก็จะทำการตรวจวัดระดับมาตรวัด 2 รูปแบบคือ ระดับ 5 ลิตรและระดับ 20 ลิตร ซึ่งจะทำการทดสอบมาตรวัดน้ำมันทุกหัวจ่าย ซึ่งหากการทดสอบพบว่าน้ำมันเต็มลิตรหรือมากกว่านั้นถือว่าปกติและหากพบว่าในการตรจสอบต่ำกว่าเกณฑ์ คือมาตรฐานการตรวจ 5 ลิตรและน้ำมันที่ออกมาในระบบตรวจสอบมีน้ำมันสูญหายไปมากกว่า 50 ซีซีต่อ อัตราส่วน 5 ลิตร ก็จะให้มีการแก้ไขทันที หรือผู้ประกอบการสามารถยื่นอุทธรณ์เพื่อทำการตรวจแก้ได้ภายใน7 วัน โดยในช่วงของการปรับแก้นั้นเจ้าหน้าที่จะทำการติดป้ายห้ามใช้งานทันที”

นายกัมปนาท กล่าวต่ออีกว่า แต่หากพบว่าการตรวจสอบสถานยริการน้ำมันใด มีการปรับแก้หรือดัดแปลงตู้จ่ายน้ำมันไม่ว่าจะเป็นการกระทำการในลักษณธใดก็ตามที่ต่างจากระเบียบที่กำหนด ก็จะมีความผิดทันทีซึ่งมีอัตราโทษที่สูงคือจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 280,000 บาท ดังนั้นผู้บริโภคก็จะต้องหมั่นตรวจสอบสิทธิของตนเองทุกครั้งทีเข้ารับบริการหากพบสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบได้ทันที ทั้งนี้นการตรวจสอบสถานีบริการน้ำมัน ทั้ง 420 แห่งทั่วทั้งจังหวัดซึ่งมีหัวจ่ายน้ำมันอยู่ที่ 4,310 หัวจ่าย เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะลงพื้นที่ดำเนิการตรวจสอบตามรอบปีอย่างเข้มงวดและเต็มที่แยกเป็นการตรวจสอบรายปีอย่างน้อยสถานีบริการน้ำมันละ 1 ครั้ง ขณะที่ผู้ประกอบการเองนั้นจะตรวจสอบมาตรฐานการให้บริการและมาตรวัดหัวจ่ายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งและบริษัทฯขนาดใหญ่ก็จะมีการตรวจสอบมาตรฐานตัวเองอยู่แล้วในทุก3 เดือน จึงมั่นใจได้ว่าการคุมเข้มในมาตรการดังกล่าวสำนักงานชั่งตวงวัดขอนแก่นดำเนินการอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง

ด้านนายอิทธิพล ชลธราศิริ ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เรื่องการชั่งตวงวัดเป็นเรื่องใกล้ตัวกับประชาชนอย่างมาก ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำมันไม่เต็มลิตรคณะทำงานของพรรคก้าวไกลทุกพื้นที่ก็ได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอร่วมสังเกตุการณ์ในการทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของประชาชน และยังคงทราบมาว่าด้วยบทบาทภาระงานที่มีอย่างมากที่เกี่ยวกับการชั่งตวงวัดทุกประเภท
“ยกตัวอย่างเช่นสำนักงานขอนแก่นมีข้าราชการ 5 คนและลูกจ้างอีกจำนวนหนึ่งแต่ภาระงานนั้นครอบคลุม 3 จังหวัดภาคอีสานตอนกลาง ที่จะต้องออกปฎิบัติงานตรวจสอบตาชั่งตลาดสด,ตาชั่งรถบรรทุก,ตาชั่งสินค้าทุกประเภท,ตาชั่งโรงสีข้าว,ตรวจสอบปั้มน้ำมัน,และหายเร่แผงลอยต่างๆ ซึ่งเป็นภาระงานที่มากแต่ยังคงเป็นหน่วยงานที่อยู่เพียงแค่กลุ่มงานของกระทรวงพาณิชย์ดังนั้นการปรับเปลี่ยนที่ได้มายื่นกระทู้ในสภาฯว่าด้วยการพิจารณาบทบาทของหน่วยงานดังกล่าวให้ตรงกับภาระงานและจำนวนบุคคลา ก็จะมีการเสนอจัดตั้งกรมชั่งตวงวัด เพื่อให้การทำงานเพื่อประชาชนในการคุ้มครองผู้บริโภคตามข้อกฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตที่กำลังจะมาถึงที่ต้องรักษาประโยชน์ของเกษตรกรให้เต็มที่ด้วย”

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.