ข้าราชการขอนแก่นไม่โอเค จ่ายเงินเดือน 2 รอบ ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ดีใจรัฐบาลลดค่าไฟและค่าน้ำมันจริง เพราะแบ่งเบาภาระได้ในระดับหนึ่ง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ จากเดิมจ่ายเดือนละ 1 รอบ เป็นเดือนละ 2 รอบ โดยจะเริ่ม 1 ม.ค.2567 เป็นต้นไป เพื่อให้ข้าราชการมีกระแสเงินสด ในการใช้จ่ายและชำระหนี้ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่เกิดขึ้นในขณะนี้
ข้าราชการรายหนึ่งใน จ.ขอนแก่น (เจ้าตัวขอไม่เปิดเผยชื่อและนามสกุล) กล่าวว่า ยอมรับว่ากังวลกับมติครม.ดังกล่าว เพราะจะกระทบกับใช้ชีวิตและการบริหารจัดการเงิน ทั้งในส่วนบุคคลและองค์กร ยกตัวอย่างเช่น ตนเองมีเงินเดือนและมีภาระที่ต้องจ่าย เช่น หนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ หนี้ธนาคารต่างๆ บัตรเครดิต ค่ำน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน ปกติจ่ายครั้งเดียวช่วงสิ้นเดือน แต่ถ้าหากเปลี่ยนระบบเงินเดือนเป็น2 รอบ จะต้องแบ่งจ่ายแบบไหนจึงจะไม่กระทบ และสหกรณ์หรือธนาคารจะสามารถทำเรื่องแบ่งจ่ายให้กับข้าราชการได้หรือไม่
“ในระบบราชการคนที่ทำบัญชี ธุรการของหน่วยงานจะต้องมาทำบัญชีเงินเดือน 2 รอบ เรื่องนี้ไม่ได้กระทบเฉพาะหน่วยงาน จะต้องไปถามธนาคารทั้งของรัฐและเอกชน ว่าเขาจะยอมให้แบ่งจ่ายเป็น 2 งวดหรือไม่ และถ้าจ่าย 2 รอบธนาคารต้องคิดดอกเบี้ยรอบเดียวเท่าเดิมหรือไม่ถ้าคิดดอกเบี้ย 2 รอบผลกระทบก็จะมาตกที่คนจ่ายแบบนี้ก็ไม่โอเค ไม่ใช่มอบนโยบายให้หน่วยงานราชการแล้วจบ แต่รัฐบาลต้องไปประสานกับหน่วยงานอื่นๆด้วย อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าแบ่งจ่ายเงินเดือน 2 รอบก็คือการใช้เงิน 2 ครั้งซึ่ง โดยนิสัยส่วนตัวยอมรับว่าไม่ค่อยออมเงิน เพราะฉะนั้นกลัวว่าแต่ละครึ่งเดือนจะไม่พอใช้ สุดท้ายก็ต้องไปยืมเงินจากที่อื่นมาใช้อยู่ดี แต่ถ้าจ่ายเดือนละครั้งเหมือนเดิมก็จะรู้ว่าบริหารจัดการอย่างไร
ข้าราชการรายดังกล่าว กล่าวต่ออีกว่า การที่รัฐบาลมองว่าจ่ายเงินเดือนเป็น 2 งวด เพื่อให้ข้าราชการมีกระแสเงินสดหมุนเวียน ส่วนตัวกลับมองว่าจะเพิ่มภาระหนี้สินมากกว่า เพราะนิสัยคนไทยใช้เงินเติบ กลางเดือนไม่พอก็ต้องหยิบยืม พอสิ้นเดือนค่อยนำมาคืน สุดท้ายก็จะกลายเป็นหนี้ไม่รู้จบ หากรัฐบาลอยากให้ข้าราชการมีกระแสเงินสดหมุนเวียน เสนอให้ปรับฐานเงินเดือนให้กับข้าราชการจะดีกว่า เพราะ9ปีที่ผ่านมาระบบราชการไม่เคยได้ปรับฐานเงินเดือนในกลุ่มเทศบาลเลย ที่พูดไม่ได้เรียกร้อง แต่หากรัฐบาลอยากให้มีเงินหมุนเวียนวิธีนี้คือทางออกที่ดีที่สุด
ขณะที่นายสงวน สุวรรณภา อายุ 67 ปี ข้าราชการบำนาญ กล่าวว่า ดีใจที่ครม.มีมติลดค่าไฟฟ้า จากเดิมกิโลวัตต์ละ 4.45 บาท เหลือ 4.10 บาท กิโลวัตต์ และค่าน้ำมันดีเซล ให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร เริ่มได้ 20 ก.ย.นี้ เพราะที่ผ่านมาประชาชนลำบาก การลดค่าไฟจะช่วยแบ่งเบาภาระประชาชนได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้โดยปกติครอบครัวตัวเองเป็นครอบใหญ่อยู่กันหลายคนค่าไฟแต่ละอยู่ที่ 5,000 บาท จะลดได้มากได้น้อยก็ถือว่าดีหมด
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.