ชุดปฎิบัติ ภ.4 สนธิกำลังร่วม สภ.เมืองขอนแก่น บุกตรวจสถานบริการชื่อดังกลางเมืองขอนแก่น เปิดให้บริการเกินเวลา พบห้องลับปาร์ตี้ยาเค รวบ 18 นักเที่ยวมั่วสุมยาเคอย่างเมามันส์
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 7 ต.ค.2566 พล.ต.ต.ไพศาล ลทอสมบูรณ์ รักษาการ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วม บก.สส.ภ.4 และ สภ.เมืองขอนแก่น เข้าตรวจที่สถานบริการแห่งหนึ่งภายในโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองขอนแก่น (ไอคอน(ICON) รร.เจริญธานี) หลังรับแจ้งว่ามีการเปิดให้บริการเกินเวลาและมั่วสุมเสพยาเสพติด อย่างบ่อยครั้ง
โดยเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงพบนักเที่ยวชาย-หญิงจำนวนมาก กำลังเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะสั่งให้เปิดไฟ และหนุดเล่นดนตรี พร้อมทั้งการตรวจบัตรประชาชนและทำการตรวจหาสารเสพติด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังคงตรวจพบห้องลับซึ่งเปิดเป็นห้องคาราโอเกะ จำนวน 4 ห้อง โดยมีนักเที่ยวกำลังมั่วสุมเสพยา และทันทีที่พบว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจต่างพากันทิ้งยาเสพติดลงพื้น ขคงทำการควบคุมตัวนักเที่ยวทั้งหมดมาตรวจหาสารเสพติด ซึ่งในเบื้องต้นพบมีสารเสพติดในร่างกาย 18 คน จึงนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดซ้ำ พบว่ามีสารเสพติด 7 คน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมจับกุมนายเอกทวี อาจคำพา อายุ 33 ปี ชาว จ.ขอนแก่น มาทำการสอบสวน
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า สถานบริการแห่งนี้เปิดให้บริการทุกวันและมีการร้องเรียนจากประชาชนถึงพฤติกรรมยองการมั่วสุมเสพยาเสพติด โดยเฉพาะห้องลับ ที่ทำทีเป็นห้อวคาราโอเกะ แต่กลุ่มนักเที่ยวจะรู้ว่าจะเปิดให้มีการมั่วสุมเสพยาเค และยาอี ในช่วงตั้งแต่ 02.00-04.00 น. ชุดการข่าวจึงลงพื้นที่หาข่าวและวางแผนจับกุม
“ขณะเข้าตรวจแม้จะเกินเวลาตามที่กฎหมายกกหนดแล้ว ก็ยังคงพบผู้มาเที่ยวอยู่ในห้องโถงประมาณ 250 คน และมีใช้บริการห้องคาราโอเกะอยู่ 2 ห้อง จากทั้งหมด 4 ห้อง จากการตรวจภายในห้องคาราโอเกะพบยาเคหรือเคตามีนตกอยู่ที่พื้น ถึงได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารยาเสพติดปรากฏว่าพบผู้มาเที่ยวมีศาลยาเคจำนวน 18 คน จึงควบคุมตัวมาหาสารเสดติดซ้ำและทำประวัติและดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมาย ทั้งยังคงแจ้งข้อกล่าวหาให้กับ นายเอกกวี อาจคำพา อายุ 33 ปี ผู้จัดการสถานบริการ 3 ข้อหาคือ ประกอบด้วย ปล่อยปะให้มีการมั่วสุมเสร็จยาเสพติดในสถานบริการ, เปิดสถานบริการเกินเวลาผิดกฎหมายกำหนด และจำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีที่ สภ.เมืองขอนแก่น ตามกฎหมาย”
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวต่ออีกว่า มาตรการปราบปรามยาเสพติดอีกแบบอย่างหนึ่งคือ ลดปริมาณการใช้ยาเสพติด ซึ่งได้กำชับให้ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 4 นำกำลังเข้าตรวจสถานบริการ ในเขตเมืองขอนแก่น โดยตรวจเน้นความผิดเกี่ยวกับผู้ใช้ยาเสพติด ซึ่งผลการตรวจค้นที่ขอนแก่นวันนี้พบยาเสพติดเคตามีน ซึ่งจะต้องสืบสสนสอบสวนขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากลัวและเกรงว่าจะเกิดที่สุดสำหรับสถานบริการแห่งนี้ที่เห็นคือ หากเกิดเพลิงไหม้แล้วกำลังจะหลบหนีออกจากสถานบริการแห่งนี้จะหนีอย่างไร เมื่อทางเข้า-ออกมีทางเดียวซึ่งต้องขึ้นบันไดไปด้านบน ประตูหนีไฟหลังเวที 2 ประตูถูกปิดล๊อคไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดในเรื่องนี้ด้วย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.