เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 พ.ย. 2566 นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าแรงจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า พรรคการเมืองมักจะใช้เรื่องค่าจ้างมาหาเสียง อย่าง 400 บาทก็คือนโยบายของพรรคเพื่อไทยและปี 70 จะปรับเป็น 600 บาท แต่ข้อเท็จจริงจะไปไหวหรือไม่ เพราะการพิจารณาค่าจ้างจะพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อในพื้นที่ ดัชนีค่าครองพีช สถานภาพแรงงานในพื้นที่มีการว่างงานเยอะหรือไม่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นอย่างไรมีการจ้างงานเป็นอย่างไร และพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม
“ทุกจังหวัดจะพิจารณาจากเกณฑ์ประมาณนี้ ว่าจะขึ้นหรือไม่ ขึ้นเท่าไร่ ทุกอย่างต้องเป็นมติ ถ้าคณะกรรมการเห็นต่างแม้แต่เสียงเดียวต้องทำการโหวต ทั้งนี้โดย ความเห็นส่วนตัวค่าจ้างชั้นต่ำทั้งประเทศและขอนแก่นควรปรับขึ้นส่วนตัวเลขจะเป็นยังไงต้องแล้วแต่กรรมการพิจารณา”
นายวิฑูรย์ กล่าวต่ออีกว่า จากที่ฟังจากรัฐมนตรีแรงงานบอกว่าจะปรับค่าจ้างชั้นต่ำขึ้นแน่นอนแต่ตัวเลข 400 บาท ไม่น่าจะเป็นไปได้และในความเห็นส่วนตัวก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะถ้าปรับขึ้น 400 บาทจริงผลกระทบในทางลบเยอะกว่าทางบวกถึงขั้นมีปัญหาในภาคการผลิต สิ่งที่ดีที่สุดในการปรับคือสร้างสมดุลค่าจ้างของตัวเลขลูกจ้างอยู่ได้ นายจ้างไม่กระทบ ต่างคนต่างอยู่ได้ ถ้าตัวเลขที่ปรับมากเกินไปธุรกิจ SME จะมีผลกระทบมากที่สุดทางธุรกิจถ้าถึงขั้นนั้นอาจจะต้องหยุดกิจการถ้าปรับเยอะแล้วคนตกงานมองว่าไม่เกิดประโยชน์
“อยากจะบอกว่าถ้าประกาศปรับค่าจ้างชั้นต่ำแล้วแรงงานต่างด้าวทั้งหมดในประเทศไทยได้ด้วย ทั้ง เมียนมา กัมพูชา ลาว ที่เข้ามาทำงานได้หมดและจะเกิดการแห่มาทำงานของแรงงานต่างด้าวอีกเยอะเพราะว่าค่าจ้างบ้านเราจะสูงขึ้นกว่าในประเทศเหล่านั้นค่อนข้างเยอะ การปรับค่าจ้างได้หมดทุกคนภายในประเทศไม่แยกแรงงาน ไทย ลาว เมียนมา กัมพูชา จะได้ผลประโยชน์เหมือนกันและจะส่งผลกระทบกับแรงงานไทยที่มี และที่สำคัญถ้าปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ 400 บาทจริงๆ คาดว่าอัตราคนตกงานหลายล้านคนและอัตราที่ปรับใหม่น่าจะเริ่มใช้จริง 1 ม.ค.2567”
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.