ตชด.ภ.2 รวบ 4 ผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า 124,000 เม็ดมูลค่ารวมเกือบ 4 ลบ.ผตห.สารภาพทำครั้งแรกแต่ตำรวจไม่เชื่อ เร่งประสาน ปส.ขยายผลจับกุมยกแก๊งค์
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 23 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา บก.ตชด.ภ.2 จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภ.2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ ตชด.ภ.2,บช.ปส.และ ร้อย ตชด.236 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายแรเมศวร์ แสงทอง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.10 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม,นายสมชัย หาดทะวงศ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.10 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม,น.ส.กฤติยาภรณ์ โทสวนจิตร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 ม.4 ต.โพนทอง อ.บ้านแพง จ.นครพนมและ น.ส.เฟื่องฟ้า หอยสังข์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.6 ต.หาดแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม พร้อมของกลางยาบ้า 124,000 เม็ด รถยนต์กระบะโตโยต้า รีโว่สีดำ หมายเลขทะเบียน บธ-6662 นครพนม รถยนต์เก๋งฮอนด้าสีดำ หมายเลขทะเบียน กต-3474 นครพนม หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ ตชด.ภ.2 จับกุมตัวได้บริเวณ หน้าวัดยอดลำธาร ต.นาแก้ว อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร
พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภ.2 (ขอนแก่น) กล่าวว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำยาบ้าจำนวนมากลักลอบเข้ามาในเขตพื้นที่ภาคอีสานและส่งต่อให้กับลูกค้าในหลายจังหวัดของภาคอีสานเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล กำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.จึงประสานการข่าวและเฝ้าติดตามผู้ต้องสงสัย จนกระทั่งสืบทราบแน่ชัดว่าจะมีการลักลอบนำยาบ้า จากประเทศเพื่อนบ้านเข้าฝั่งไทยที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงตั้งจุดสกัดชั่วคราขึ้นที่ อ.โพนนาแก้ว ก่อนจะพบกระบะต้องสงสัยขับผ่านจุดตรวจเมื่อช่วงเช้ามืดของคืนที่ผ่านมาด้วยท่าทางต้องสงสัยเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยวางอยู่ที่เบาะที่นั่งหลังคนขับ จึงทำการควบคุมตัวนายปรเมศวร์ คนขับและนายสมชัย ซึ่งโดยสารมาด้วยมาทำการสอบสวน
“จากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ยังคงมียาบ้าซุกวซ่อนอยู่อีกหลายจุด จึงกระจายกำลังตรวจค้นในจุดทีผู้ต้องหาระบุ คือบริเวณริมถนนสาย 3051 บ.นาแก้ว-โพนงามท่า อ.โพนนาแก้ว และที่บ้านพัก จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้มาสอบสวน รวมทั้งผู้ต้องหายังคงระบุว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย ทำหน้าที่ขับรถดูต้นทางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ต้องหาประสานเพื่อขอนัดพบ ก่อนที่นะจับกุมตัวได้บริเวณภายในสถานีบริการน้ำมันท่าแร่ อ.ท่าแร่จ.สกลนคร”
ผบก.ตชด.ภ.2 กล่าวต่ออีกว่าจากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นแฟนกัน และกระทำการเป็นขบวนการค้าฝ่ายหญิงขับรถยนต์เก๋งเป็นรถดูต้นทาง ส่วนฝ่ายชายมีหน้าที่ลำเลียงและขนยาบ้าไปในจุดทีนัดหมายและแม้ว่าผู้ต้องหาทั้งหมดจะสารภาพว่าทำครั้งแรกแต่ด้วยพฤติกรรมและการวางแผนทั้งหมดน่าจะทำมาหลายครั้งจึงเป็นเหตุให้ไม่ปักในเชื่อซึ่งจะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการและทำการยึดทรัพย์ต่อไป ซึ่งยาบ้าทั้งหใดที่ตรสจยึดมาได้คิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 4 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงตั้งข้อหาว่ามียาเสพติดไง้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายก่อนจะทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.