เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นและสร้างความเสียหายในพื้นที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา กล่าวคือ มีกลุ่มบุคคลแอบอ้างว่าตนเองนั้นเป็นผู้ค้ารายใหญ่ค้าหมูกับบริษัทชื่อดัง โดยในแต่ละสัปดาห์จะรับหมูจากฟาร์มในเครือ บริษัทหลักร้อยตัว โดยฟาร์มหมูดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนค้าหมูร่วมกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งเป็นลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำสร้างความน่าเชื่อถือ
โดยมีการนำข้อความการสนทนากับอดีตผู้จัดการของบริษัทชื่อดัง หรือ แม้แต่การสร้างโปรไฟล์ของบริษัท มาพูดคุยกับบุคคลในครอบครัวของกลุ่มผู้ก่อเหตุ มีการนำภาพที่อ้างว่าเป็นหมูที่อยู่ในฟาร์มของ บริษัทมาให้ผู้เสียหายดู ทั้งที่จริงแล้วบุคคลดังกล่าวนั้นไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ค้ากับบริษัทแต่อย่างใด โดยการหลอกลวงดังกล่าวนั้นกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันทำ
โดยหลอกให้ร่วมลงทุนแล้วรอรับเงินปันผลในลักษณะ ปันผลราย 15 วัน ซึ่งระยะแรกก็มีการปันผลตามปกติ แต่เมื่อมาระยะหลังอ้างว่า ทางบริษัทยังไม่ได้จ่ายปันผลเนื่องจากติดห้วงเทศกาลปีใหม่ สุดท้ายแล้วความแตกเมื่อผู้เสียหายได้ไปติดตามสอบถาม จึงยอมรับหน้าตาเฉยว่า ไม่มีการลงทุนจริงแต่อย่างใดและตนเองไม่ได้เป็นสมาชิกของบริษัท มีแค่พ่อและแม่ที่เป็นสมาชิกของหมูขุน ส่วนสามีนั้นเป็นสมาชิกของซีพีในรูปแบบชิ้นส่วนหมูเท่านั้น แต่เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบข้อมูลแล้วก็ยังพบความจริงอีกว่า
ทั้งแม่และสามี ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกของบริษัท ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใดมีแค่พ่อเท่านั้นที่เป็นสมาชิกแต่ไม่ได้เป็นสมาชิกระดับ 100 ตัวตามที่สร้างภาพให้กับตัวเองไว้ มูลค่าความเสียหายในครั้งนี้หลายล้านบาท โดยทางผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.เชียงคำ จ.พะเยาไว้ส่วนหนึ่งแล้ว จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ จาก.เชียงราย พะเยา ให้ระวังพฤติกรรมกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่ตั้งใจมาหลอกลวงโดยอาศัยความน่าเชื่อถือของบริษัทชื่อดังมาหากิน
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.