นักวิชาการ มข.เป็นปลื้มไทยค้นพบแร่ลิเทียม แนะรัฐส่งเสริมจริงจัง ทำให้บริสุทธิ์และทำให้ได้มากกว่าแบตเตอรี่ไฟฟ้า

99

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ม.ค. 2567  ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ โรงงานต้นแบบแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ตั้งอยู่ภายในบริเวณอุทยานวิทยาศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากนักวิชาการภายหลังมีการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมในประเทศไทย

รศ.ดร.นงลักษณ์ มีทอง ผู้อำนวยการโรงงานแบตเตอรี่ มข. กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดี ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมใหม่หรือการประกาศเกี่ยวกับแหล่งแร่โซเดียมในครั้งนี้ เพราะทั้งหมดจะสามารถนำมาต่อยอดในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแร่ชนิดใดก็เป็นโอกาสที่ดีที่มีการค้นพบ เพราะจะทำให้มีศักยภาพและมีส่วนในการทำให้อุตสาหกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่เกิดขึ้นในประเทศไทย

” การค้นพบแร่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้อุตสาหกรรมแบตเตอรี่เกิดขึ้น แต่ว่าหลังจากค้นพบแหล่งแร่แล้วอาจจะต้องทำให้บริสุทธิ์มากขึ้น เพราะหากได้ออกมาเป็นลิเธียมแล้วถึงจะเข้ามาสู่กระบวนการผลิตส่วนประกอบของแบตเตอรี่อีกที ทั้งนี้ มข.อยู่จุดที่ทำให้แร่บริสุทธิ์แล้วและนำมาผลิตเป็นขั้วแบตเตอรี่ มาผลิตเป็นเซลล์แบตเตอรี่และนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างไรก็ดีในอนาคตถ้าเราสามารถผลิตขั้วไฟฟ้าหรือส่วนประกอบต่างๆที่ใช้แร่ตัวนี้เป็นองค์ประกอบจะทำให้อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่เป็นประโยชน์แก่ประเทศในภาพใหญ่ได้”

รศ.ดร.นงลักษณ์ กล่าวต่ออีกว่า การขุดค้นพบครั้งนี้ไม่ทราบว่าจะมีแร่และทำให้บริสุทธิ์ได้ปริมาณมากเท่าใดและจะมีศักยภาพมากแค่ไหนในการมาสร้างอุตสาหกรรมใหม่ขึ้น แต่ถ้ามีปริมาณเยอะจริงก็เป็นโอกาสที่จะมีอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่อง และจะต้องทำให้แร่บริสุทธิ์มากขึ้น ดังนั้นการผลิตวัสดุที่อยู่ในห่วงโซ่อย่างเช่นขั้วไฟฟ้าจะเกิดขึ้นด้วย เพราะการผลิตวัสดุในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่มีค่าการตลาดสูงจะสามารถสร้างกำไรได้เยอะ และ ถ้าเกิดขึ้นได้ถึงตรงนั้นจริงๆคนไทยจะสามารถได้ประโยชน์จากมูลค่าที่เกิดขึ้นจากแร่ตรงนี้ ทั้งนี้ มข. ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้มานานทำงานวิจัยเรื่องนี้มานานและมั่นใจว่าในเรื่องการทำเทคโนโลยีทำได้อยู่แล้วยิ่งถ้ามีส่วนสนับสนุนอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องโดยเฉพาะจากทางภาคอุตสาหกรรมจะทำให้ต่อยอดได้ทำให้คนในประเทศได้รับประโยชน์ในส่วนนี้

“อยากให้มองอุตสาหกรรมแบตเตอรี่นั้นแยกออกจากอุตสาหกรรมอีวี (EV) เพราะว่าการผลิตแบตเตอรี่สามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมอื่นๆได้ด้วย ซึ่งไม่เฉพาะแต่อีวี แต่อยากให้มองแยกกันเพราะทั้งหมดจะไปสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดอื่นๆหรือว่าไปเป็นแบตเตอรี่สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งจะมีประโยชน์แน่นอน ทั้งนี้สำหรับอุตสาหกรรมแบตเตอรี่สามารถทำให้เกิดขึ้นในประเทศเราได้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเข้าไปอยู่ในช่วงห่วงโซ่คุณค่าที่ให้ประโยชน์กับประเทศได้มากแค่ไหน ปัจจุบันการผลิตแบตเตอรี่เพื่อยานยนต์ไฟฟ้าเราผลิตอยู่แล้วในเมืองไทย ดังนั้นเราต้องกลับมาคิดว่าคนไทยได้อะไรประโยชน์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตแบตเตอรี่จากเทคโนโลยีต่างประเทศเพราะว่าเราไม่ได้ไปอยู่ในจุดของห่วงโซ่คุณค่าที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับคนในประเทศจึงอยากให้มองว่านำไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่าเอามาผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า”

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.