วันที่ 9 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่าช่วงนี้เป็นที่ฤดูพืชผักกำลังออกดอกและผล พืชบางชนิด1ปี ออกดอกผลเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น เช่นต้นสะแล และดอกสะแล จะเป็นที่ต้องการของพ่อค้าแม่ค้า ในตลาดและผู้คนทั่วไป จะเสาะหามาประกอบอาหาร และขาย เพราะมีราคาแพงหายาก ดอกสะแลที่ออกใหม่ราคากก.ละ 400บาท หรือมากกว่า แต่แพงก็เป็นที่ต้องการนำมาประกอบอาหารเพราะทานแล้วเป็นยา อายุวัฒนะต้านอนุมูลอิสระ ด้วย
ผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านนางวันเพ็ญ ยอดอ้อย อายุ 61 ปี เลขที่ 62 ม.8 บ้านห้วยทรายคำ ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ซึ่งมีสวนผัก-ผลไม้พื้นบ้านหลายชนิดและต้นสะแลที่พุ่มสูงกว่า2เมตร กำลังออกดอกอ่อนเป็นพวงติดตามกิ่งต้นสะแล เต็มไปหมด และได้ช่วยกันตัดกิ่งก้านที่มีดอกสะแส ติดเต็มไปทั่ว แล้วแกะเลาะดึงเอาดอกสะแล เพื่อนำไปประกอบอาหารแกงดอกสะแล ซึ่งสะแลเป็นไม้เลื้อยยืนต้น ที่มีตามเรือกสวนและในป่า จะพบได้ทางภาคเหนือเท่านั้น สะแลมักขึ้นตามชายป่า สวนที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ ลำธารหรือพื้นที่ชุ่มเย็น ต้นสะแล จะออกดอกมากช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม สำหรับดอกสะแลถือเป็นพืช ผักชนิดหนึ่ง ที่ชาวบ้านจะปลูกไว้กิน และขายหรือไปหาในป่า หรือหาซื้อตามท้องตลาดสดเหมือนผักอื่นๆ
ดอกสะแล เป็นที่รู้จักและนิยมในภาคเหนือ มีประโยชน์คุณค่าสารอาหารต่อสุขภาพร่างกาย โดยเป็นผักหรือดอก มีรสมัน นุ่มกรอบอร่อย ส่วนมากดอกสะแลจะมีวางขายตามฤดูกาล ดอกและผลนำมาทำเป็นอาหารได้ เช่น แกงส้ม แกงป่า แกงแค และเพิ่มเนื้อสัตว์ เนื้อปลา และปลาแห้ง ใส่เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ หรือจะนำมาลวกจิ้มกินกับน้ำพริกก็อร่อยที่สำคัญดอกและผลของสะแลมีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร และยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงนับได้ว่าดอกสะแลนอกจากอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และเป็นที่ต้องการของคนทั่วไปอีกด้วย
นางวันเพ็ญ ยอดอ้อย เจ้าของสวนสะแลได้เล่าว่า ต้นสะแลจะขึ้นตามสวนตามป่า ซึ่งจะออกดอกปีละครั้ง และจะนำมา ทำเป็นอาหาร ได้หลายเมนูเช่นแกงใส่ปลา แกงใส่หมู และนึ่งกินกับน้ำพริก คุณค่าทางอาหารเวลาได้รับประทานแล้วจะช่วยในการขับถ่ายดี เจริญอาหาร และยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สำหรับแกงส้มดอกสะแลของคนทางภาคเหนือ สูตรแกงกับปลานิลก็อร่อยไปอีกแบบส่วนราคาซื้อขายหากสะแลออกดอกต้นปีจะมีราคา กก. ละ 400 บาท หรือขีดละ 40 บาท
ขณะเดียวกันหลังจากที่เก็บดอกสะแลแล้ว ทางนางวันเพ็ญก็ได้มีการสาธิต การแกง ดอกสะแลแบบพื้นบ้านด้วยการใช้เตาอั่งโล้ ใช้ไม้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง โดยมีการเตรียม ดอกสะแล เครื่องเคียง เนื้อปลา ตำน้ำพริก แกง และต้มแกงดอกสะแล แบบใหม่ๆ สดๆ ที่เก็บมาจากต้นนำมาล้างทำความสะอาดและแกง จนสุกแล้วนำมารับประทานกินกันอย่างเอร็ดอร่อย เพราะ 1 ปีมีเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
ปัณณวิชญ์ อยู่ดี จ.พะเยา
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.