บุกทลายแกงค์มอดไม้รายใหญ่อีสาน ใช้ร้อยเอ็ด-อุบล มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท พบประวัติหมายจับอื้อ

93
ตร.ภ.4 บุกทลายแกงค์มอดไม้รายใหญ่อีสาน ใช้ร้อยเอ็ด-อุบล เป็นฐานบัญชาการ ขโมยไม้ทั่วภาคก่อนนำมาแปรรูปขายต่างประเทศ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท พบประวัติหมายจับอื้อบางคนถูกจับแล้วก็ประกันตัวมาก่อเหตุอีก “สรายุทธ” สั่งขยายผลรวบผู้ร่วมขบววการและยึดทรัพย์ให้หมด

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 27 มี.ค. 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 พร้อมด้วยพล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 ,พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผบก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.สมภพ กองสมบัติ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาร่วมขบวนการค้าไม้พะยูงรายใหญ่ของภาคอีสาน โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้ทั้งหมด จำนวน 3 รายประกอบด้วยนายยุทธนา ศรีดี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.10 ต.ขามเฒ่าพัฒนา อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ207/2567 ลง 25 มี.ค.2567 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ในเคหสถาน ในสถานที่ราชการ

โดยร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พร้อมของกลางรถยนต์ฮอนด้าเก๋ง ฮอนด้าสีขาว ทะเบียน ขว-2542 ขอนแก่น 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม และเครื่องปั่นไฟฟ้า สำหรับใช้กับเลื่อยไฟฟ้า,นายปัญญา ผ่านสถิน อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.7 ต.ราชธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.208/2567 ลง 25 มี.ค.2567 ข้อหาลักทรัพย์ (ไม้พะยูง) ในเวลากลางคืนในสถานที่ราชการ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 29 ม.7ต.ราชธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางโทรศัทพ์มือถือ 1 เครื่อง และ นายหัตถพงษ์ แก้วคำใต้ อายุ 29 ปี อยูบ้านเลขที่ 28 ม.7 ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.209/2567 ลง 25 มี.ค.2567 ข้อหา ร่วมกันพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 29 ม.7ต.ราชธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลาง รถยนต์อีซูซุ สีขาว สภาพเก่า ทะเบียน กฉ-4175 มุกดาหาร ไม่มีเบาะผู้โดยสาร 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เลื่อยไฟฟ้า ยี่ห้อ makita 1 เครื่อง แบตเตอรี่เลื่อยไฟฟ้า ยี่ห้อ makita 2 ก้อน เลื่อยมือสองเกลอ 2 ปื้น เชือกไนล่อนสีขาว ขนาด 24 มม. ยาว 10 เมตร 1 เส้น โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวว่า ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4 ได้สืบทราบว่า มีการลักลอบตัดไม้พะยูงที่อยู่ในพื้นที่วัด โรงเรียน ที่มีการรักษาไม้พะยูงเอาไว้ โดยในพื้นที่ บช.ภ. 4 นั้นมีการก่อเหตุรวมจำนวน 39 คดี บก.สส.ภ.4 จึงทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวกลุ่มคนก่อเหตุลักลอบตัดไม้พะยูงเนื่องจากเกิดเหตุในหลายจังหวัดต่อเนื่องกัน

จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด ที่อยู่ใกล้เคียงจุดที่เกิดเหตุ เชื่อได้ว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่เชื่อมต่อกันในหลายพื้นที่ มีรถยนต์ จำนวน 4 คัน คือรถยนต์ฮอนด้าเก๋ง ฮอนด้าสีขาว ทะเบียน ขว-2542 ขอนแก่นที่มีนายยุทธนา เป็นเจ้าของรถ มี นายหัตถพงษ์ แก้วคำใต้ อายุ 29 ปี เป็นคนขับรถ และรถยนต์อีซูซุ สีขาว สภาพเก่า ทะเบียน กฉ-4175 มุกดาหาร ซึ่งมี นายปัญญา เป็นเจ้าของรถ และรถยนต์กระบะ ที่ใส่คอกเหล็กอีก 2 คัน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขอหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิดทั้งหมด 7 คน แต่หลบหนีได้ 4 คน พร้อมรถยนต์กระบะ 2 คัน จึงจับกุมได้เพียง 3 คน พร้อมของกลางดังกล่าว

” จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทราบว่า การตัดไม่พะยูงนั้น มีนายทุนจากต่างประเทศ จ้างให้ตัด โดยนายยุทธนา ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ ที่ถูกให้ออกจากราชการแล้ว และเคยถูกจับในคดีเดียวกันมาแล้ว อยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นศาล ทำหน้าที่หาไม้พะยูง โดยจะทำหน้าที่ในการขับรถตระเวนหาไม้พะยูงตามโรงเรียนและวัดในพื้นที่ภาค 4 เมื่อได้ไม้พะยูงที่เป็นเป้าหมาย ก็จะมีคนงานที่เป็นพวกเดียวกันไปลักลอบตัดในเวลากลางคืน ซึ่งขณะที่พรรคพวกตัดไม้ นายยุทธนา ก็จะดูต้นทางให้ ส่วนพวกก็จะตัดไม้ ก็จะตัดเป็นท่อนๆ ขนใส่รถยนต์อีซูซุ ที่เอาเบาะนั่งออก ขนไปยังที่พักในพื้นที่อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เพื่อทำการแปรรูป ก่อนจะส่งไปให้นายทุนที่ต่างประเทศ ซึ่งตั้งแต่ร่วมกันลักลอบตัดไม้พะยูงมานั้นรวมแล้ว 39 คดี มีมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท”

ผบช.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ได้มีหลายท้องที่ประสานขออายัดตัวผู้ต้องหาแล้ว เนื่องจากทุกคนมีหมายจับในหลายคดี โดยนายยุทธนา และนายหัตถพงษ์ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนจาน จว.กาฬสินธุ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนายปัญญา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด ดำเนินคดี ขณะเดียวกันยังได้สั่งการให้ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4สืบสวนขยายผล จับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 4 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และข้อหาฟอกเงิน รวมถึงจะขายผลถึงการยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาทุกคนอีกด้วย

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.