กรรมาธิการศึกษา ลุยสอบคดี ผอ.คอลสยิว-อมเงินหลวงไปใช้ส่วนตัว “เอกราช” ย้ำชัด 14 วันรู้เรื่องชงผลสอบให้ “เพิ่มพูน” ฟันผิด

151
กรรมาธิการศึกษา ลุยสอบคดี ผอ.คอลสยิว-อมเงินหลวงไปใช้ส่วนตัว ขณะที่ชาวชุมชน-กรรมการสถานศึกษาให้ข้อมูลแน่น พบเอกสารทางการเงินหายรายการ “เอกราช” ย้ำชัด 14 วันรู้เรื่องชงผลสอบให้ “เพิ่มพูน” ฟันผิด

เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 17 เม.ย.2567 ที่โรงเรียนอนุบาลอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภุมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการการศึกษาสภาผู้แทนราษฎร นำคณะที่ปรึกษาและคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามการสืบสวนสอบสวน กรณีการร้องเรียนการทุจริตการใช้เงินของทางราชการไปใช้ในทางส่วนตัวและการประพฤติตนที่ผิดจริยธรรมหลังมีการทวงถามเงินของผู้ให้บริการคอลสยิวผ่านโซเชียลมีเดียจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ของ สพป.ขอนแก่น เขต 4 และมีการย้าย ผอ.รร.ฯไปช่วยราชการที่ สพป.ขอนแก่น เขต 4

โดยมีนายชาญกฤต น้ำใจดี ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 4,นายพิทักษ์ พงษ์ธรรม ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา รร.อนุบาลอุบลรัตน์ฯรวมทั้งคณะครูและผู้ปกครองในพื้นที่เข้าร่วมให้ปากคำและให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อย่างพร้อมเพรียง

นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทยและกรรมาธิการการศึกษ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้ สพป.ขอนแก่น เขต 4 ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง นายวรวุฒิ โพธิศรี ผอ.รร.อนุบาลอุบลรัตน์ ตามคำร้องเรียนในเหตุการณืที่เกิดขึ้นทั้งหมด 12 เรื่อง ซึ่งในการลงพื้นที่วมกันของคณะทำงานกรรมาธิการการศึกษา นั้นพบว่ามีพบสิ่งผิดปกติหลายอย่าง และพบว่ามีข้อมูลที่มีมูลอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของการทุจริตนำเงินของทางราชการไปใช้ในประโยชน์ส่วนตัว การกระทำที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และยังคงพบว่ามีเอกสารทางการเงินซึ่งเป็นเอกสารของทางราชการหลายรายการหายไปในช่วงที่มีการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่พัสดุและในช่วงที่ ผอ.ฯรายดังกล่าวมาดำรงตำแหน่ง

“ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาสรุปในชั้นกรรมาธิการ ทั้งยังคงมีการประสานงานร่วมกับ ปปช.,สพป.ขอนแก่น เขต 4 และทุกหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบเพื่อที่จะสรุปสำนวนเสนอต่อ เลขา สพฐ,และ รมว.ศึกษาธิการ โดยได้กำชับให้ สพป.ขอนแก่น เขต 4 ทำการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนทั้ง 12 ข้อและการกระทำที่ฉาวโฉ่ซึ่งผิดจริยธรมอย่างชัดเจนตามพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน”

นายเอกราช กล่าวต่ออีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และเป็นเรื่องที่มีมูลความผิด และมีหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ ดังนั้นการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในฐานะที่กำกับและควบคุมบุคคลากรทางการศึกษา เมื่อผู้นำหน่วยกระทำการในลักษณะเช่นนี้ โดยมีพยานคณะกรรมการสถานศึกษาและประชาชนในพื้นที่พร้อมที่จะให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือกับแนวทางการสืบสวนสอบสวน จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำทันทีไม่สืบจนลืม อย่างไรก็ตามสถานศึกษาเป็นสถานที่ที่สร้างคน เป็นต้นแบบที่ให้เด็กและเยาวชนต้องเข้ารับการศึกษา ดังนั้นเมื่อผู้นำกระทำการในลักษณะเช่นนี้จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจัง รัดกุมและดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างรอบคอบที่สุด ขณะที่การที่ สพป.ขอนแก่น เขต 4 มีคำสั่งย้าย ผอ.รร.ฯที่ถูกร้องเรียนไปปฎิบัติหน้าที่ที่ รร.บ้านฝางวิทยา อ.กระนวน และคนในชุมชนไม่ต้องการและมีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่ สพป.ขอนแก่น เขต 4 โดยมีคำสั่งระบุว่าย้ายไปดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ โดยไม่ได้เป็นการบ้านเพื่อสืบสวนสอบสวนหรือย้ายเพราะถูกร้องเรียน ในประเด็นนี้ได้รับทราบเรื่องและจะมีการตรวจสอบว่าเอื้อประโยชน์ให้กันด้วยหรือไม่เพิ่มเติมเข้าไปด้วย

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.