ตำรวจขอนแก่น เมากร่างหาเรื่องร้านอาหารตามสั่งตรงข้ามโรงพัก แม่ค้า วอนผู้บังคับบัญชาลงโทษสถานหนัก เพราะก่อเหตุทุกวันซ้ำมาด่าด้วยคำพูดที่รุนแรงจนลูกค้าแตกกระเจิง

99

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ไดเผยแพร่ภาพจากเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ชุมชนข่าวขอนแก่น” ซึ่งได้โพสต์คลิปภาพชายคล้ายตำรวจเอะอะโวยวาย พร้อมข้อความระบุว่า ”ทำไม จ้ายอดเก่าไม่จ่ายนะจ๊ะ ไปฟ้องผู้กำกับเอา ตำรวจคนเดิม ตอนเมาและไม่เมา ดีกรีเท่ากันเลย เจ้าของร้านเดินหน้าขอความเห็นใจ ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ที ลูกค้าหายแถมเจอชักดาบอีก ปล.นายบอกไปจ่ายเรียบร้อย ไม่ค้างบิล แต่คำพูดเพราะโมโห“

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้ไปพบกับนางสุนิตรา อุไกรษา อายุ 50 ปี เจ้าของร้านครัวคุณเก่ง และร้านเล่าหมูกระทะ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 396/1 ม.2 บ้านเป็ด ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่งตรงข้าม กับสภ.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น

น.ส.สุนิตรา กล่าวว่า ครอบครัวทำมาหากินอาชีพสุจริต เปิดร้านขายอาหาร หมูกระทะ เพื่อความอยู่รอดและไม่มีปัญหากับใคร ไม่สร้างปัญหากับคนในสังคม โดยเปิดร้านมาร่วม 2 ปี ก็เงียบสงบดี แต่เหตุการณ์กับเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่ง “จ่าแซม” หรือ ส.ต.อ.ธนาธิป รัชโพธิ์ สังกัด สภ.บ้านเป็ด ทำหน้าที่ช่วยพนักงานสอบสวน เดินมาซื้อสุรา และนั่งดื่มในเวลาทำงานเป็นประจำ แต่ทุกคนก็ไม่มีใครใส่ใจ ต่อมาในระยะหลังช่วง1-2 เดือนนี้ จ่าแซมมีอาการหนัก เพราะทางร้านไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ น่าจะไม่พอใจ ไปดื่มจากที่อื่นมา จนมีอาการเหมือนคนเมา เข้ามาในร้าน สูบบุหรี่พ่นควันใส่หน้าลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้าน จนลูกค้ามาบอกกับตนเองว่า ช่วงนี้เราห่างกันสักพักนะเจ๊ ไม่อยากจะให้ที่ร้านเจ๊มีปัญหา และตำรวจขู่ลูกค้า ไล่ลูกค้าออกากร้านทั่งที่ทางร้านยังเปิดให้บริการอยู่ จนลูกค้าหวาดกลัว ต้องรีบจ่ายเงินและกลับออกจากร้านไป

“ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา จ่าแซม ยืนอยู่บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวที่ติดกับร้านตน แล้วได้ตะโกนด่าไอ้เหี้ย, ไอ้สัตว์ ,ไอ้เกาะเมียกิน และพูดจาดุด่าอื่นๆ ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย จึงให้ นายชายชัย คำวิเศษ อายุ 40 ปี สามี เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.วรวัฒน์ อักษร รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเป็ดและขอเข้าพบผู้บังคับบัญชาของจ่าแซม ซึ่งทราบจากผู้บังคับบัญชาว่า จ่าแซมป่วยทางจิตเวชมานาน เคยเข้ารับการรักษา และรับยามากิน แต่ไม่ทราบสาเหตุว่า เกิดอาการทั้งหมดได้อย่างไร ซึ่ง โดยส่วนตัวเห็นว่า จ่าแซม หากป่วยจิตเวช ก็ไม่สมควรจะรับราชการต่อไป ผู้บังคับบัญชาควรพิจารณาโทษ หรือให้ออกจากราชการ หรือย้ายไปที่อื่น เพราะไม่เช่นนั้น ประชาชนผู้ทำอาชีพสุจริตจะอยู่ยาก ค้าขายไม่ได้ ขอให้ย้ายออกนอกพื้นที่โดยเร็ว”

น.ส.สุนิตรา กล่าวต่ออีกว่า ถามว่ากลัวไหมทำมาหากินต่อได้ไหม ใจจริงไม่ได้กลัวมีเรื่องกับตำรวจคนอื่นๆเลย นอกจากคนนี้คนเดียว ตำรวจทั้งโรงพักล้วนมาเป็นมิตรเป็นลูกค้า แต่ตำรวจคนนี้มาระรานลูกค้าจนเกิดผลกระทบ ลูกค้าไม่กล้าเข้าร้าน ไม่กล้ากลับมากินที่ร้านอีก เคยแจ้งเคยคุยกับผกก.สภ.บ้านเป็ด ไปรอบหนึ่งแล้ว ทั้งยังได้เรียกทนายมาตักเตือนแล้ว แต่พฤติกรรมก็กลับมาเช่นเดิมและหนักขึ้นทุกวัน

“ที่ผ่านมาเราพยายามอดทนมาตลอด แต่ยิ่งนานวันลูกค้าหาย ได้รับผลกระทบ อยากให้ทางต้นสังกัดมีบทลงโทษที่หนักกว่านี้ไม่ใช่เพียงตักเตือนเพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ส่วนทรัพย์สินนั้นไม่ได้รับความเสียหาย และทางผู้บังคับบัญชาของจ่าแซมสั่งห้ามเข้าในร้านอีก แต่ก็จะนั่งในส่วนของร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าร้านตนเอง ที่จะนำแคร่ไม้ไผ่วางไว้ ที่เกิดเหตุในคลิปล่าสุด ทั้งนี้ที่ผ่านมาจ่าแซมไปหาเรื่องวัยรุ่นหาว่าขโมยของจนโดนวัยรุ่นรุมตีอยู่หน้าร้าน ส่วนคลิปเหตุการณฺมีเพียงสองคลิปนี้ เพราะที่ผ่านมาเราพยายามอดทนและคิดว่าคุยกันไปแล้วจะไม่มีความวุ่นวายจึงไม่ได้เก็บคลิปที่ผ่านมาไว้ มีเพียงสองคลิปที่เก็บเป็นหลังฐาน และพักหลังหนักขึ้นตำรวจที่รู้จักกันเคยบอกว่ามีบัตรเป็นผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งตนเองก็ไม่เห็นบัตรนั้น แต่ส่วนตัวมองว่าคนที่เป็นตำรวจ พกปืน ถ้าเป็นผู้ป่วยจิตเวช เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาใช้ปืนยิงคนไปทั่ว ในเรื่องปืนก็ได้ยินมาอีกเช่นกันว่า พ่อของจ่าแซมเก็บปืนไว้ไม่ให้พก และพาไปรักษาจิตเวชรับยามากิน แม้ไม่มีปืนแต่ทุกอย่างก็เป็นอาวุธได้หมดอยากให้ทางตำรวจดำเนินคดีกับจ่าแซมในข้อหาหมิ่นประมาท และย้ายออกไปจากพื้นที่ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์วนอยู่แบบนี้ต่อไป”

 

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.