ว่าที่ผู้สมัคร สว.ขอนแก่น นับร้อย ตบเท้าเข้ารับฟังคำแนะนำจาก กกต.เพื่อเตรียมพร้อมต่อการรับสมัคร “วัชระ” ย้ำชัด 27 หน่วยงานพร้อมตรวจคุณสมบัติเข้ม พบผิดฟันไม่เลี้ยง แต่มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้ภายใน 3 วัน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 16 พ.ค.2567 ที่โรงแรมเจริญธานี ขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายวัชระ สีสาร ผอ.สนง.กกต.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อเผยแพร่ความรู้การดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งสำนักงาน กกต.ขอนแก่น ได้กำหนดจัดกิจกรมขึ้น โดยมีว่าที่ผู้สมัคร สว. จากทั้ง 20 สาขาอาชีพเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
นายวัชระ สีสาร ผอ.สนง.กกต.ขอนแก่น กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าวันนี้มีว่าที่ผู้สมัครและผู้ที่สนใจลงสมัครรับเลือกเป็น สว.มาร่วมรับฟังคำชี้แจง กฎระเบียบข้อบังคับและแนวทางการเลือก สว. ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งล้วนต่างสอบถามถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับและความเข้าใจในการเลือก สว. ทั้งในระดับอำเภอและระดับจังหวัด แต่สิ่งที่ กกต.เน้นย้ำคือเรื่องคุณสมบัติ โดยยกกรณีศึกษาการถือหุ้นสื่อ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาให้กับผู้ที่สนใจได้เข้มงวด ตรวจสอบเพราะในใบสมัครนั้นต้องระบุชัดเจนและตรวจสอบตนเองว่ามีคุณสมับติครบถ้วนหรือมา ซึ่งจะถือเป็นหลักฐานสำคัญในการที่ใช้ในการพิจารณาและตรวจสอบคุณสมบัติหลังการรับสมัครเช่นกัน
“ ขณะนี้ 27 หน่วยงานพร้อมที่จะดำเนินงานร่วมกับ กกต.ในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครทุกคน โดยจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 5 วันตามที่ กกต. กำหนด โดยในการพิจารณาถอดถอนรายชื่อนั้นจะดำเนินการได้ทั้งหมด 3 ขั้นตอน คือเริ่มจากการตรวจสอบคุณสมบัติรอบแรกแล้วเมื่อไม่ผ่านคุณสมบัติก็จะประกาศทันที รอบต่อมาคือหลังจากการรับสมัครไปแล้วและมาถอดถอนรายชื่อทีหลัง โดยในทั้ง 2 รอบนี้นั้นหากผู้สมัครรายใดจะยื่นอุทธรณ์สามารถยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 3 วันหลังจากการประกาศ และขั้นตอนสุดท้ายคือหลังจากที่ได้รับตำแหน่ง กกต.สามารถที่จะสอยทีหลังได้เช่นกัน ซึ่งหากรายใดถูก กกต.ตัดสินสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ”
นายวัชระ กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังจากการสมัครแล้ว ขอเตือน ผู้สมัครทุกคนหากให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหรือขึ้นเวทีดีเบตต่างๆนั้นสามารถที่จะกระทำได้เฉพาะการแนะนำตัวนั้น หากจะออกความคิดเห็นหรือพูดถึงเรื่อง สว.ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็จะหมิ่นเหม่ต่อการกรำทผิดกฎหมายเลือกตั้ง รวมไปถึงการดำเนินงานในเรื่องของการแนะนำตนเอง ซึ่ง กกต.ได้คลายกฎให้สามารถดำเนินการได้ 3 รูปแบบประกอบด้วย การแต่งตั้งผู้ช่วย เพื่อแนะนำผู้สมัคร,การแนะนำตนเองด้วยเอกสารประชาสัมพันธ์ตามแบบ สว.3 และการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในรูปแบบต่างๆทั้งหมดจะต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายอย่างเข้มงวด
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.