คนร้ายบุกชิงทรัยพ์ในสำนังสงฆ์ พบก่อเหตุต่อเนื่อง วอน ตำรวจเร่งล่าตัว

1,096

วันที่ 17 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศันย์ชัย พานิชกุล ผกก.สภ.บ้านดู่ เข้าตรวจสอบ ที่สำนักสงฆ์ รัศมีมณีโชติ(หลวงปู่ กิจ) ภายหลังรับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายชีพรามหณ์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้

จาการสอบถามที่สำนักสงฆ์ ทราบว่า ป้าปี ขอสงวนชื่อ นามสกุลจริง อายุ 65 ปี เป็นชีพราหมณ์ สวมเสื้อขาวแขนสั้นสวมผ้ากันเปื้อนทับ อยู่ในอาการตกใจกลัว ที่ผ้ากันเปื้อนมีรอยรูขาดประมาณ 2 เซนติเมตร ทะลุเสื้อขาว และที่ท้องน้อยด้านขวามีบาดแผลถลอก ใกล้กันพบอาวุธมีดสั้นปลายแหลมยาว 7 นิ้วตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำผู้เสียหายและผู้อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนป้าเล็กเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อตรวจร่างกาย

ป้าปี (นามสมมุติ ) เล่าให้ฟังว่า ขณะกำลังกวาดเศษใบไม้อยู่ มีชายลักษณะสูงสวมเสื้อกางเกง สวมหมวกไอ้โม่งสีดำปิดปังใบหน้าเข้ามาประชิดตัวด้านหลัง ใช้มีดจี้ที่หลังพร้อมกับพูดสำเนียงไม่ชัดว่าเอาเงินมา เอาเงินมาไม่งั้นจะแทงให้ตาย ตนขัดขืนยื้อแย่งมีดกับคนร้าย เป็นจังหวะที่คนร้ายล้วงเอาเงินในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนไปประมาณ 1,000 กว่าบาท และใช้มีดแทง จึงร้องให้คนช่วย คนร้ายจึงได้ผลักจนล้มทิ้งมีดแล้ววิ่งหลบหนีไป

โดยคนร้ายสวมหมวกไหมพรมเห็นแต่ดวงตา มีกลิ่นสุรา แต่จำได้ว่าเป็นไอ้โม่งรายเดียวกับคนที่เข้ามายื้อแย่งชิงมือถือของตนหน้าห้องน้ำเมื่อหลายคืนก่อน อยากให้ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายโดยเร็วเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ด้านนางสุมาลี คนงานในสำนักสงฆ์ เล่าให้ฟังว่า ขณะกำลังเทพื้นก่อสร้างอาคารห้องครัวอยู่กับสามี ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากป้าเล็ก ว่ามันมาอีกแล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปดูเห็นป้าเล็กนอนอยู่เอามือกุมท้องไว้ บอกว่าโดนแทง จึงโทรแจ้งตำรวจและกู้ภัย

“คนร้ายเคยก่อเหตุเข้ามาขโมยทรัพย์สินในสำนักสงฆ์แห่งนี้หลายครั้งแล้ว ครั้งแรกคืนวันที่ 28 ก.พ.68 เข้ามาขโมยอาหารของใช้ในห้องครัว และพระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดหน้าตัก 9 นิ้วไป ครั้งที่2 วันที่ 1 มี.ค.68 เข้ามาขโมยถังแก๊ส และอีกอาทิตย์ต่อมาสวมหมวกไอ้โม่งเข้ามายื้อแย่งโทรศัพท์มือของป้าเล็กไป ล่าสุดวันนี้พกมีดจี้บังคับเอาเงินป้าเล็กอีก”นางสุมาลี กล่าว

โดยสำรวจภายในสำนักสงฆ์ มีกล้องวงจรปิดเพียง 2 จุด คือทางเข้าด้านหน้าสำนักสงฆ์ ที่บันทึกภาพขณะคนร้านเข้ามาขโมยของในช่วงเวลากลางคืนไว้ได้ ส่วนอีกจุดอยู่ตรงห้องครัวซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายมาเข้ามาขโมยอาหารแต่คนร้ายได้ดึงปลั๊กออกก่อนก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบเส้นทางหลบหนีและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.