เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 18 ม.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานมาจาก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ท่าเรือผ่านแดนไทย-สปป.ลาว ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน ซึ่งเป็นจุดวัดของศูนย์สำรวจอุทกวิทยาที่ 12 อ.เชียงแสนวัดได้ 2.01 เมตร ต่ำจากระดับตลิ่ง 10.99 เมตร ถือว่าระดับน้ำต่ำมากส่งผลให้เกิดเนินทรายขึ้นกลางแม่น้ำโขงหลายจุด และได้ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือทุกชนิดทั้งเรือบรรทุกสินค้าและเรือบริการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่สัญชาติจีน ทำให้เรือบรรทุกสินค้าทั้งเรือจีนและเรือลาวต้องจอดเทียบท่าที่บริเวณริมแม่น้ำโขงตลอดแนวถนนเลียบแม่น้ำโขงหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสนมากกว่า 30 ลำ ขณะที่ระดับแม่น้ำรวกที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง ที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง น้ำก็ได้ลดระดับลงจนแห้งเหลือพื้นที่น้ำกว้างประมาณ 8 เมตร จนมีเนินทรายโผล่ขึ้นมาเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวต้องทำสะพานยื่นลงไปในหาดยาวกว่า 100 เมตรเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินไปขึ้นเรือ เพราะเรือไม่สามารถเข้าเทียบท่ามารับได้
นางเกศสุดา สังขกร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย สาขาอำเภอเชียงแสน เปิดเผยว่าจากภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้นรวมไปถึงการที่ประเทศจีนได้ทำการระบายน้ำจากเขื่อนเหลือเพียงวันล่ะ 800-1,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลระดับแม่น้ำโขงลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ทำให้กระทบต่อผู้ประกอบการที่ทำการว่าจ้างเรือสำหรับขนส่งสินค้าไปประเทศจีน เพราะต้องแบกรับภาระค่าขนส่งที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับเรือสัญชาติจีนจากที่เคยบรรทุกได้ในลำหนึ่ง 400 ตัน แต่ปัจจุบันจากภาวะน้ำโขงแห้งทำให้ต้องลดการบรรทุกลงเรือเพียงลำล่ะ 200-250 ตันเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถให้เรือแล่นขึ้นไปได้เพราะเรือต้องกินน้ำลึกถึง 2.00 เมตร นอกจากนี้หลังจากวิ่งไปถึงจุดที่น้ำตื้นสุดหรือที่มีชื่อเรียกกันว่าม่องป่าแหล่ว ทำให้เรือสินค้าต้องไปจอดรอน้ำซึ่งเสียเวลาไปอีก 2-3 วัน ทำให้การรับส่งสินค้ามีความล่าช้าไปอีก ในช่วงนี้ก็ยังมีเรือสัญชาติลาวที่ยังพอวิ่งได้เพราะกินน้ำเพียง 1.00-1.50 เมตร ก็สามารถบรรทุกสินค้าขึ้นไปได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามก็มีขีดจำกัดในเรื่องน้ำหนักบรรทุกเพราะขนาดเรือที่เล็กกว่า และในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ใกล้เทศกาลตรุษจีนทางประเทศจีนก็จะหยุดการระบายน้ำจากเขื่อนเนื่องในวันหยุดซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ทางผู้ประกอบการต้องเร่งรีบดำเนินการขนส่งสินค้าไปให้ถึงประเทศจีนได้ทั้งหมดภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ มิฉะนั้นก็จะไม่สามารถขนส่งสินค้าไปได้อีกหลายวัน
นางเกศสุดา กล่าวอีกว่าในเรื่องระดับแม่น้ำโขงที่ต่ำลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางผู้ประกอบการต่างพากันปรับตัวในการประกอบธุรกิจ เช่นการต่อเรือใหม่ต้องออกแบบให้เรือกินน้ำให้ตื้นที่สุด แต่อย่างไรก็ตามอยากให้มีหน่วยงานที่ประสานกับทางประเทศจีนขอข้อมูลการปล่อยน้ำเป็นประจำเดือนมาแจ้งให้กับผู้ประกอบการเพราะถ้าหากว่ารู้กำหนดปิดเปิดน้ำที่ชัดเจนทางผู้ประกอบการก็จะได้วางแผนสั่งสินค้าหรือเตรียมเรือให้พร้อมเมื่อมีการปล่อยน้ำมาก็สามารถปล่อยเรือสินค้าไปได้ทันที.
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.