แม่ทัพภาค 3 เผยผลงาน 2 เดือนจับยาเสพติดได้เพียบ เตรียมติดรูปผู้ต้องหาตามจุดตรวจเตือนสติผู้ที่คิดจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

150

วันที่ 20 ธ.ค.61 ที่สโมสรค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 พล.ต.บรรณวัฒน์ พรหมจรรย์ ผบ.พล.ร.7 (ผบ.ศูนย์ปฏิบติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.) พล.ต. สายัณห์ เมืองศรี หัวหน้าศูนย์ข่าวยาเสพติด (ศขย.) กองทัพภาคที่ 3 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผกก.2 บก.ปส.3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 5 ป.ป.ส.ภาค 3 ตำรวจ ภ.6 กองกำลังผาเมือง กองกำลังนเรศวร กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จ.เชียงราย เรือนจำกลางเชียงราย ศึกษาธิการ จ.เชียงราย เขตสุขภาพที่ 1 ร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติการการบูรณาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ตามนโยบายของรัฐบาลในการสกัดกั้นยาเสพติดใน 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.61 ซึ่งปฏิบัติการ ได้ 56 วัน สามารถตรวจยึดยาบ้าพื้นที่ชายแดนได้จำนวน 29,593,069 เม็ด ยาไอซ์ 607.50 กิโลกรัม เฮโรอีน 71.27 กิโลกรัม พื้นที่ตอนในยึดยาบ้าได้จำนวน 88,062,694 เม็ด ยาไอซ์ 885.87 กิโลกรัม เฮโรอีน 70.03 กิโลกรัม รวมผลการปฏิบัติการยึดยาบ้าได้จำนวน 113,655,762 เม็ด ยาไอซ์ 1,493.37 กิโลกรัม และเฮโรอีน 140.30 กิโลกรัม

ในปัจจุบันทหารได้วางกำลังสกัดกั้นตามจุดสำคัญของชายแดนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะด้านกองกำลังผาเมืองที่มีช่องทางเข้ามาได้หลายจุดและใกล้แหล่งผลิตยาเสพติด ด้านตำรวจได้ตั้งด่านถาวรทั่ว ภ.5 เขต 8 จังหวัดภาคเหนือจำนวน 74 จุด และมีด่านชั่วคราว 3 ชั่วโมงกระจายเป็นใยแมงมุมอีก 108 จุด ติดตั้งกล้องและ อุโมงค์เอ๊กซเรย์ ตามจุดตรวจต่างๆ ในส่วของฝ่ายปกครอง ได้ฟื้นฟูการปฏิบัติของชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) หมู่บ้านละ 10 คน โดยจัดให้มีเวรยาม ประจำการยามค่ำคืนเพื่อให้ชาวบ้านตรวจตราสิ่งแปลกปลอมในพื้นที่ ขณะที่ทั้งจังหวัดมีผู้เสพยาเสพติดประมาณ 5,000 คน ซึ่งได้รับการบำบัดและสามารถควบคุมได้

 

พล.ท.ฉลองชัย กล่าวว่าจากการปฏิบัติการเกือบ 2 เดือนทำให้ทราบว่าทุกฝ่ายยังต้องทำงานกันหนักเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะเมื่อแหล่งผลิตยังอยู่ติดกับภาคเหนือจึงเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่พ้นและพฤติกรรมของขบวนการค้ายาเสพติดก็ปรับไปตามสถานการณ์ โดยจากเดิมใช้การขนกระเป๋าเป้ใบละ 100,000-200,000 เม็ด น้ำหนัก 10-20 กิโลกรัม ใช้คน 5 คนขนเข้ามาได้ประมาณ 1 ล้านเม็ดก็หันมาใช้รถยนต์ที่ขนได้ครั้งละมากๆ ตามที่ปรากฎให้เห็นการตรวจจับได้ที่ผ่านมาดังกล่าว สาเหตุเพราะเส้นทางคมนาคมสะดวกมากขึ้นเชื่อมโยงไปถึงเกือบทุกจุด และในประเทศเพื่อนบ้านก็มีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมถึงกันได้ ส่วนตลาดพบว่านอกจากประเทศไทยแล้วประเทศอื่นๆ ที่อยู่ใต้ลงไปก็มีการสั่งซื้อยาเสพติดเพิ่มเติมอีกทำให้เจ้าหน้าที่้ต้องปรับวิธีการเพื่อให้เท่าทันกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด

“ในอีก 1-2 วันนี้ทางแม่ทัพภาคสามเหลี่ยม ประเทศเมียนมา จะเดินทางมาเยือนพื้นที่ภาคเหนือของไทยและจะพักอยู่ในพื้นที่ราว 1-2 วัน ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 3 จะได้หารือในหลายๆ หนึ่งในนั้นก็คือการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมถึงการขอส่งตัวผู้หลบหนีคดีจากฝั่งไทยเข้าไปยังประเทศเมียนมาด้วย นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งจะมีผู้คนเดินทางไปเยือนชายแดนโดยเฉพาะ จ.เชียงราย เป็นจำนวนมากและกลุ่มขบวนการอาจลักลอบปะปนรวมถึงกลุ่มมือใหม่ที่อาศัยความพลุกพล่านดังกล่าว ซึ่งมีแนวทางจะนำภาพใบใหญ่ของผู้ที่ถูกจับกุมที่ผ่านมาไปติดเอาไว้ตามจุดสำคัญๆ เช่น ด่านตรวจต่างๆ ที่มีรถผ่านไปมาเพื่อให้ผู้ที่คิดจะกระทำผิดเกิดความเกรงกลัว

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.