เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 27 พ.ย. ร้อย ตำรวจเอก สถาพร มังคราช ร้อยเวร งานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ขณะนำสายตรวจออกตระเวนดูแลรักษาความสงบสุข ได้รับแจ้งเหตุเกิดเพลิงไหม้ที่อู่ซ่อมรถยนต์ จึงรายงานเหตุเบื้องต้นให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย ร้อยตำรวจโท ทินกร คำประวิตร ร้อยเวร งานสอบสวน พร้อมด้วยรถดับเพลิงจากเทศบาลนครเชียงรายอีก 2 คัน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนสายระหว่าง อำเภอเมืองเชียงราย – อำเภอเทิง พบอู่เคาะ พ่นสี ซ่อมเครื่องรถยนต์ ชื่อ “อู่ช่างติ่ง” เลขที่ 32 หมู่ที่ 11 บ้านหัวดอย ตำบลท่าสาย ลักษณะสร้างเป็นเพิง มุงหลังคาด้วยสังกะสี หลังอู่ได้สร้างเป็นห้องนอนไม้ให้คนงานพักอาศัย และใช้เป็นที่เก็บสี และทินเนอร์ ที่ใช้พ่นรถยนต์ อยู่ในบริเวณเนื้อที่กว่า 2 ไร่ เดชะบุญที่ข้างอู่รถเป็นปั๊มน้ำมันร้างที่เลิกกิจการไปแล้ว รถดับเพลิงต้องใช้เวลา 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ในเบื้องต้นพบว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
ใน ที่เกิดเหตุ พบนายชินโชติ ลิขิตอิศรา อายุ 40 ปี เจ้าของอู่รถ ได้กล่าวว่า มีบ้านพักอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ ได้มีคนงานชื่อนายดำ เป็นคนนอนเฝ้าอยู่ในอู่ได้วิ่งมาแจ้งว่าเกิดเพลิงไหม้ จึง ได้แจ้งรถดับเพลิงจากเทศบาลท่าสาย พร้อมประสานจากเทศบาลนครเชียงรายนำรถดับเพลิงมาช่วย อู่ไม่มีประกันอัคคีภัย เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุเกิดจากเรื่องอะไร มีรถยนต์ที่จอดซ่อมอยู่ในอู่เสียหาย 3 คัน รวมทั้งบ้านพักคนงาน รวมค่าเสียหายประมาณ 5 แสนบาท โชคดีที่ได้นำรถยนต์ที่ซ่อมเสร็จแล้วรอเจ้าของมารับ มีทั้งรถเบ็นซ์ รถบีเอ็มดับบลิว ได้นำไปจอดอยู่ที่ปั้มน้ำมันร้าง ทำให้ไม่เกิดความเสียหาย ร้อยตำรวจ ทินกร กล่าวว่า ต้องรอให้เช้าก่อนแล้วจะพร้อมด้วยพิสูจน์หลักฐานมาตรวจหาสาเหตุการเกิดเพลิง ไหม้ครั้งนี้ เบื้องต้น สันนิษฐานว่า จุดเกิดเหตุอยู่ที่ห้องนอนติดกับของเก็บสีและทินเนอร์ ที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือคนงานสูบบุหรี่ โยนก้นบุหรี่ทิ้งไปติดสีที่พ่นรถก็เป็นได้.
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.