(มีคลิป) ยังลักลอบข้ามพรมแดนต่อเนื่อง เข้ม4อำเภอสกัดต่างด้าวหลังโควิดเมียนมารอบ2

200

วันที่ 28 ส.ค.63 หลังหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ซ้ำระรอก 2 ในเมืองซิตตเว รัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา โดยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มกว่า 100 ราย โดยมีผู้ป่วยสะสม 574 ราย มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้เข้มงวดพื้นที่ชายแดน ใน อ.แม่ฟ้าหลวง แม่จัน แม่สาย และ อ.เชียงแสน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองของชาวเมียนมา เนื่องจากพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเมียนมา ของ จ.เชียงราย เป็นช่องทางธรรมชาติสามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้

โดยเมื่อหัวค่ำวันที่ 27 ส.ค.63 กำลังทหารร้อย ม.3 ฉก.ม.2 ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ได้มอบหมายให้ ร.อ.กิตติเดช กันคล้อย ผบ.ร้อย.ม.3 ฉก.ม.2 จัดกำลังทำการลาดตระเวณท่าข้ามแม่น้ำสาย บริเวณ ท่าข้ามกะหล่ำ บ้านเมืองแดง ม.1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 4 คน ทราบชื่อคือ 1.นายไชยอาย อายุ 48 ปี สัญชาติเมียนมา 2.นาง ฮาคิน อายุ 31 ปี สัญชาติเมียนมา 3.นาง ทานู อายุ 41 ปี สัญชาติเมียนมา และ 4.นาย โตปาย อายุ 28 ปี สัญชาติเมียนมา

โดยทั้งหมดกำลังพยายามข้ามจากฝั่งไทย เพื่อจะข้ามไปยังประเทศประเทศเมียนมาทราบว่า นายไชยอาย นาง ฮาคิน นาง ทานู ได้เดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ ต้องการจะเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ประเทศเมียนมา โดยให้ นาย โตปาย ว่ายแม่น้ำสายจากฝั่งประเทศเมียนมามารับข้าม แต่ถูกทางควบคุมตัวไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งตรวจคนเข้าเมืองเชียงรายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายและขั้นตอนต่อไป

 

พ.อ.จักรกริศน์ เจริญโชติกาญจน์ ผู้แทนผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมากองกำลังผาเมืองได้จับกุมแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาตามช่องทางต่างๆ เขต จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ รวมจำนวน 106 ครั้ง ผู้ต้องหา 332 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ปัจจุบันได้ทำการสกัดกั้นตามแนวชายแดน ทั้งการวางกำลังใน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด โดรนถ่ายภาพกลางคืน ไฟส่องสว่างแบบโซล่าเซลล์ และเพิ่มความแข็งแรงของลวดหนามหีบเพลง แต่ก็ยังพบว่าใน จ.เชียงราย ยังสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้ามาระหว่างวันที่ 23 มี.ค.-26 ส.ค.ได้ 56 ครั้ง ผู้ต้องหา 151 ราย เป็นชาวเมียนมา 83 ราย ไทย 54 ราย ลาว 12 ราย และจีน 2 ราย ปัจจุบันหากมีคนไทยเข้ามาโดยถูกกฎหมายจะนำเข้าสู่กระบวนการกักตัวที่โรงแรมในเขต อ.เมืองเชียงราย หรือ Local Quarentine แต่หากผิดกฎหมายจะกักที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) จ.เชียงราย แต่หากเป็นชาวต่างด้าวจะผลักดันกลับทั้งหมด

 

สำหรับสถานการณ์การระบาดรอบ 2 ในประเทศเมียนมาแม้ว่าการระบาดครั้งนี้จะอยู่ที่รัฐยะไข่ แต่ก็มีดินแดนติดต่อกัน ทาง จ.เชียงราย ต้องกลับมาเข้มงวดอีกครั้ง และให้ขยายการเข้มงวดจากเดิมที่กองกำลังผาเมืองเน้นพื้นที่ 3 อำเภอชายแดนดังกล่าวก็ให้เพิ่มเติมที่ อ.เชียงแสน ด้วยเพราะมีลำน้ำสาย – ลำน้ำรวก ที่ติดต่อกันไปถึงแม่น้ำโขง โดยได้มอบหมายให้นายอำเภอประสานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้กลับมาร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการตั้งจุดตรวจต่างๆ ตรวจสอบประชากรว่ามีผู้คนแปลกปลอมเข้ามาด้วยหรือไม่ รวมไปถึงการติดตามสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดหากพบมีการระบาดมากก็จะสกัดกั้นให้ถึงที่สุด ทางด้านการขนส่งสินค้าที่จุดผ่านแดนถาวรตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เชื่อม อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา นั้นยังคงไม่อนุญาตให้รถและคนขับชาวเมียนมาข้ามเข้ามาชั้นใน ส่วนรถที่ข้ามไปยังฝั่งไทยไม่ให้เกิน 7 ชั่วโมงโดยให้กลับภายในวันเดียวกัน และไม่ให้พักค้างคืนโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการระบาดของโรค

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.