“บิ๊กโจ๊ก” ตรวจเข้ม บขส.ขอนแก่น ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอย่างเข้มงวด พร้อมส่งนักเดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 3 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่นแห่งที่ 3 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-อุดรธานี ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น,นายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย นอง นายก อบจ.ขอนแก่น และนายยุทธพร พิรุณสาร รอง ผวจ.ขอนแก่น ตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ตั้งจุดบริการประชาชาและตรวจเข้มรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการเฝ้าระวังป้งกัน 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ โดยได้ทำการตรวจวัดแอลแอลกอฮอลล์ คนขับรถโดยสารสารธารณะทุกคัน และให้กำลังใจประชาชนที่รอขึ้นรถโดยสารในทุกเส้นทางหลังสิ้นสุดเทศกาลปีใหม่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการเห็นประชาชนคนไทย มีคสามปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และเน้นหนักในเรื่องความปลอดภัยเป็นที่สุด ทั้งในสถารการณ์ปกติและในช่วงเทศกาลต่างๆ ประชาชนต้องปลอดภัยให้มากที่สุด เกิดอุบัติเหตุต่ำสุด น้อยที่สุด ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 นั้น แม้จะมีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แต่การเจ็บ การตาย ลดน้อยลงอย่างมาก เกิดจากการที่เข้มงวดในการกวดขันวินัยจราจร ส่วนจุดเสี่ยงนั้น มีทั้งถนนสายหลักและสายรอง ยังมีจุดอ่อนในหลายจังหวัด
“จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตั้งด่านกวดขันวินัยจรารจร บังคับใช้กฎหมาย ให้ประชาชนขับขี่รถจักยานยนต์ต้องสวมใส่หมวกกันน็อค นั่งรถยนต์ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุ สามารถช่วยให้ผู้ที่นั่งในรถยนต์ปลอดภัยได้ เพราะการเกิดอุบัติเหตุ หลายครั้ง หลายราย คนคาดเข็มขัดนิรภัยปลอดภัย แต่คนไม่คาดเข็มขัด เสียชีวิต”
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ด้านการบังคับใช้กฎหมายนั้น ต้องเข้มงวดตั้งแต่วันนี้ และต้องประเมินผลการปฏิบัติด้วยว่า การเกิดอุบัตเหตุนั้น ลดลงหรือไม่ การเจ็บ การตาย ลดลงหรือไม่ ปัญหาอุปสรรคการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เกิดจากอะไร จะได้นำผลดีที่ประสบผลสำเร็จไปใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่ในปีต่อๆไป ส่วนปัญห่าที่เกิดขึ้นก็จะต้องปรุบปรุงแก้ไข เพื่อให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด และปรับปรุงจุดเสี่ยงในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด ไม่ให้เป็นจุดเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ รถสกายแล็ป ที่มักจะเกิดเหตุบ่อยที่สุด เกิดจากขับรถเร็วและไม่ใส่หมวกกันน็อค ขับรถย้อนศร ใช้รถยนต์ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด ในส่วนของประชาชนที่ยังตกค้างใน บขส.นั้น ในวันที่ 4 ม.ค. 2567 จะต้องได้กลับเข้ากรุงเทพฯกันทุกคนและต้องไม่มีผู้โดยสารตกค้างเด็ดขาด เพราะวันนี้ตนเองและทุกหน่วยงานได้มาส่งทุกท่านเดินทางให้ถึงจุดหมานปลายทางด้วยความปลอดภัย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.