ตำรวจขอนแก่น พร้อมทนายความประจำวัด “หลวงปู่ศิลา” บุกเข้าจับกุมหญิงชาวจังหวัดขอนแก่น หลังนำเหรียญเหนือดวง โพสต์ขายผ่านทางเฟซบุ๊ก เบื้องต้นผู้ต้องหาปฎิเสธ อ้างซื้อจากหน้าวัดแล้วนำมาขายต่อ

4

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 ส.ค. 2567 พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น นำหมายค้นจากศาลจังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 163 ม.7 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ภายหลังจากที่นายสุรเชษฐ์ ประสมศรี ทนายความและฝ่ายกฎหมายวัดพระธาตุหมื่นหิน อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ หรือ วัดหลวงปู่ศิลา สิริจันโท เข้าแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ว่า น.ส.พันธิพา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้ทำการนำเหรียญวัตถุมงคลของหลวงปู่ศิลา รุ่น เหนือดวง 1 และ 2 ซึ่งเป็นเหรียญปลอม มาโพสต์ขายผ่านทางเฟซบุ๊คส่วนตัว จนมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อหลายราย โดยจากการเข้าตรวจค้นบ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดของกลาง เป็นเหรียญเหนือดวง รุ่น 2 เนื้อทองฝาบาตรลงยาแดงปลอม จำนวน 3 เหรียญ

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า มีประชาชนเลื่อมใสหลวงปู่ศิลา ได้หลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพไปเช่าบูชา เหรียญหลวงปู่จากในเพจเฟสบุ๊ค โดยกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะอ้างว่าเป็นพระแท้หลอกขายในราคาเหรียญละ 1,500 บาท เนื่องจากเหรียญหลวงปู่ศิลา สิริจันโท รุ่นเหนือดวงเป็นที่นิยมมาก ขณะเดียวกันเป็นช่องทางของมิจฉาชีพเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ เมื่อประชาชนหลงเชื่อไปเช่าบูชามาพอได้รับของแล้วปรากฏว่าเป็นพระปลอมจึงได้ร้องเรียนมายังทางวัดพระธาตุหมื่นหิน
แต่ละวันจำนวนมาก

“เมื่อทางวัดได้รับทราบข้อมูลจึงหารือผู้สร้างพระเหนือดวง จึงได้เข้าปรึกษากับ สภ.เมืองขอนแก่น จึงได้วางแผนเข้าจับกุมมิจฉาชีพกลุ่มนี้และยังต้องขยายผลไปถึงโรงงานผลิตพระปลอมเหล่านี้ เพราะเหรียญเหนือดวง 1-2 และเหรียญยืนหลวงปู่ศิลาได้รับความนิยมในตลาด คณะทำงานฝ่ายกฎหมายจึงได้ทำการล่อซื้อ ก่อนที่จะรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายค้นไปค้นยังบ้านผู้ต้องหา”

นายสุรเชษฐ กล่าวต่ออีกว่า จากภาพไลค์สดพบว่าเหรียญมีเป็นจำนวนมากแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่ามีการจำหน่ายไปแล้วเหลือเพียง3 เหรียญ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าไม่รู้ว่าเหรียญแท้หรือไม่แท้ และให้การภาคเสธจริง แต่ถึงอย่างไรยังคงต้องมีการขยายผลให้ถึงโรงงานผลิต เพราะการกระทำดังกล่าวน่าจะมีหลายคนและกระจายเป็นวงกว้างคิดเป็นค่าความเสียหายรวมหลายล้านบาท

“จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่าไปวัดกราบปู่ที่วัด เห็นคนขายเหรียญอยู่บริเวณหน้าวัดจึงซื้อมาจำนวน 10 เหรียญ ในเวลาต่อมาจึงได้โพสต์ลงเฟสบุ๊ค หลังจากนั้นมีเพื่อนในเฟสบุ๊คมาถามบูชาต่อโดยที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าเหรียญที่ได้มาเป็นเหรียญแท้หรือปลอมจึงขายต่อ ซึ่งประเด็นดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่จะมีการสืบสวนสอบสวนต่อไป”

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.