ทีมสัตวแพทย์ประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ช้างจากรกเป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมสร้างนวัตกรรมการรักษาสุขภาพช้างด้วยสเต็มเซลล์
วันที่ 11 มี.ค. 68 ดร.น.สพ.ทวีโภค อังควานิช หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ช้าง ส.คช พร้อมด้วย รศ.ดร.สพ.ญ.อารีย์ ทยานานุภัทร์ ประธานบริษัท พรีซีชั่น เวท ผศ.ดร.สพ.ญ.สุภาเพ็ญ ศรีพิบูลย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สพ.ญ.ลาดทองแท้ มีพันธุ์ เพนียดคล้องช้างอยุธยา และสพ.ญ.วรางคณา ลังการ์พินธุ์ หัวหน้างานโรงพยาบาลช้างลำปาง ส.คช. ร่วมแถลงข่าวความสำเร็จในการใช้สเต็มเซลล์ช้างรักษาดวงตาช้างประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก และประเทศไทย
โดยเกิดจากความร่วมมือของ พรีซีชั่นเวทเซ็นเตอร์ ร่วมกับ สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เพนียดคล้องช้างหลวง อยุธยา และหน่วยสัตว์ป่าคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ช้างจากรกเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์สเต็มเซลล์พรีซีชั่นเวท ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของวงการสัตวแพทย์ในการอนุรักษ์และดูแลสุขภาพช้างไทย
ความสำเร็จนี้เริ่มต้นจากการเก็บสเต็มเซลล์จาก พลายสรรพลักษณ์โสภณ ช้างแฝดเทียมคู่แรกในโลก ซึ่งได้รับพระราชทานนามจาก สมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พลายสรรพลักษณ์โสภณเกิดที่ เพนียดช้างอยุธยา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 เวลา 21.18 น. และจาก ช้างพังรับอรุณ ช้างที่เกิดที่ สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 05.39 น.
นอกจากการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์แล้ว ทีมสัตวแพทย์ยังประสบความสำเร็จในการใช้สเต็มเซลล์ช้างเพื่อรักษาโรคสำคัญในช้างเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ การรักษาแผลที่กระจกตาติดเชื้อในช้าง ณ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นั่นคือ พังมรกต อายุ 14 ปี ได้รับสเต็มเซล์เมื่อวันที่ 2 ก.ย.67 จากนั้นอาการดีขึ้นจนรักษาหายในเวลา 45 วัน ซึ่งนับเป็นเชือกแรกของไทยที่ใช้สเต็มเซลล์ช้างในการฟื้นฟูอาการทางตา อีกเชือกคือ พังกำไลเพชร อายุ 30 ปี ได้รับสเต็มเซลล์ในวันที่ 2 ก.ย.67 เช่นกัน และรักษาดวงตาหายในเวลา 50 วัน เนื่องจากพังกำไลเพชรมีอายุมาก จึงทำให้การรักษาช้ากว่าพังมรกต
นอกจากนั้น โรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ยังมีการให้สเต็มเซลล์ช้างผ่านทางเส้นเลือดเพื่อรักษามดลูกอักเสบเรื้อรังในช้างเป็นครั้งแรก นั่นคือ พังวันดี อายุ 59 ปี ได้รับสเต็มเซล์เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 67 ซึ่งช่วยให้อาการของช้างดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนถึงขณะนี้มีการใช้สเต็มเซลล์ช้างเพื่อการรักษาแล้วทั้งหมด 11 เชือกในไทย โดยสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เป็นหน่วยงานที่ใช้ สเต็มเซลล์ในการรักษาช้างมากที่สุดในประเทศ
ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการสัตวแพทย์ไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อการดูแลสุขภาพช้าง ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาและการอนุรักษ์ช้างไทยให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นในอนาคต
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.