มฟล. จัดกิจกรรมปักหมุดที่จุดหมาย รุ่นพี่ชี้ทางรุ่นน้อง “เรียนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ”

46

11

 

      เมื่อเร็วๆ นี้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) โดย สำนักงานให้คำปรึกษาและช่วยเหลือนักศึกษา จัดกิจกรรม “ปักหมุด….ที่จุดหมาย” ณ อาคารสำนักวิชา 3 เนื่องจากประสบการณ์การให้คำปรึกษาของสำนักงานฯ พบว่านักศึกษาหลายคนยังขาดแรงจูงใจในการเรียน ดังนั้นจึงได้เชิญรุ่นพี่ศิษย์เก่าหลากหลายสาขามาเปิดมุมมอง สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษารุ่นน้อง ที่ยังประสบปัญหาการค้นหาตนเอง เพื่อให้สามารถวางเป้าหมายอนาคตได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่เพิ่งผ่านการสอบกลางภาคครั้งแรก ผลคะแนนอาจไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ เนื่องจากยังปรับตัวกับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยไม่ได้ กิจกรรมนี้ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและค้นพบวิธีการเรียนให้เหมาะกับตนเอง

       นางสาวศุภวัลย์  คำวัง หัวหน้าสำนักงานให้คำปรึกษาและช่วยเหลือนักศึกษา มฟล. กล่าวว่า ปักหมุดที่จุดหมาย เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาปัจจุบันได้รับฟังคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน ได้กลับมาถ่ายทอดประสบการณ์ ทั้งในด้านการเรียนและการใช้ชีวิต เพื่อให้รุ่นน้องโดยเฉพาะนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ได้มีกำลังใจในการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน โดยคาดหวังให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถสร้างแผนที่ในการก้าวเดิน ไม่หลงทาง และสามารถปักหมุดวางเป้าหมายที่แน่นอนให้ชีวิตไปสู่ความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้

         นางสาวเมธินี กีรติกรกิจโสภณ (เมย์) ศิษย์เก่าจากสาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว สำนักวิชาการจัดการ ปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินรายการและผู้ประกาศข่าวอัมรินทร์ดิจิตอล ช่องHD34 เธอเล่าว่า ในสมัยเรียนก็ประสบปัญหาการค้นหาตัวเองไม่พบ ไม่รู้ว่าอยากทำอะไรจริงๆ

       “ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากเป็นแอร์โอสเตส จึงเลือกเรียนสำนักวิชาการจัดการ พอเข้ามาเรียนจริงๆ เริ่มรู้สึกว่ายังไม่ใช่ตัวเอง ทำให้เรียนได้ไม่เต็มที่ แต่ก็พยายามที่จะเรียนให้จบ นอกจากเรียนแล้วสิ่งที่ชอบก็คือการทำกิจกรรม ชอบการเป็นพิธีกร ถ้ามีโอกาสก็จะรับงานต่างๆ ทั้งงานในและนอกมหาวิทยาลัย เป็นงานที่เราทำแล้วสนุกแต่ไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเป็นอาชีพในอนาคต หลังจากเรียนจบแล้วก็สามารถสอบเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้ พร้อมๆ กับงานพิธีกรและผู้ประกาศ เมื่อถามใจตัวเองก็เลือกงานที่ชอบจริงๆ นั่นก็คือการเป็นพิธีกร อยากบอกว่าประสบการณ์ที่เราทำในสมัยเรียนนั้นเป็นประโยชน์ในการเขียนในสมัครงานมาก ความสามารถที่เรามีนอกเหนือจากผลการเรียน เป็นสิ่งที่ทำให้เราน่าสนใจมากขึ้น” เมธินี กล่าว

       ด้าน นางสาวศริญญา รินนาศักดิ์ (เดียร์) บัณทิตจากสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สำนักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้านี่ดูแลระบบ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS

       “บางครั้งผลการเรียนไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ มันก็เสียกำลังใจแต่เราก็ต้องก้าวต่อไป อยากแนะนำว่าเราไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ด้วยตัวเราคนเดียวทั้งหมด การมีเพื่อนที่ดีจะช่วยเราได้มาก ถ้าเราไม่เก่งวิชาไหนก็ให้เพื่อนที่เขาเก่งวิชานั้นช่วยติวให้ โชคดีที่ มฟล. มีการจัดติวก่อนสอบให้ ทั้งที่จัดโดยสำนักงานให้คำปรึกษาและช่วยเหลือนักศึกษา รวมทั้งรุ่นพี่ในแต่ละสำนักวิชาจะจัดติวให้กับน้องๆ ช่วยแนะนำวิธีการอ่านหนังสือ เคล็ดลับการทำข้อสอบในแต่ละวิชา ซึ่ง มลฟ. ต้องทำข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ก็จะยิ่งกดดัน โดยเฉพาะน้องปี 1 เคล็ดลับจากรุ่นพี่จะทำให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น มั่นใจขึ้น” ศริญญา กล่าว

       ส่วน นายอรรถพล ตลึงจิตร  (เกมส์) รุ่นพี่จากสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์  ปัจจุบันประกอบธุรกิจส่วนตัวหลายด้าน และเจ้าของร้านอาหารกินเก่ง เล่าว่า เขาก็เป็นคนที่เรียนไม่เก่ง ต้องใช้เวลาเรียนถึง 13 เทอมกว่าจะจบ เพราะไม่สามารถปรับตัวเข้ากับวิธีการเรียนในมหาวิทยาลัยได้

       “แม้เราเรียนไม่เก่ง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ผลการเรียนไม่ใช่ทั้งหมดของอนาคต แต่ก็เป็นหน้าต่างบานแรกในการที่เราจะออกไปทำอะไรต่อไป สิ่งหนึ่งที่อยากเน้นย้ำคือ นอกจากการเรียนแล้วอย่าลืมทำกิจกรรม หาอะไรที่เราสนใจ มันอาจทำให้เราค้นพบตัวเอง และจะช่วยฝึกฝนตัวเราในหลากหลายด้าน ทั้งการทำงานร่วมกับผู้อื่น สร้างระบบในการทำงาน ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ เจอเพื่อนใหม่ เมื่อพบเราอุปสรรคก็จะได้ฝึกวิธีการแก้ไขปัญหา ที่สำคัญคือเสริมสร้างให้เรามีความอดทน ถ้ามีปัญหาที่แก้ไขเองไม่ได้อย่าลืมหาตัวช่วย เช่น ปรึกษาอาจารย์ หรือขอความช่วยเหลือจากสำนักงานให้คำปรึกษาฯ อย่าคิดว่าเราอยู่คนเดียว” อรรถพล กล่าว

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.