รวบแก๊งทำทะเบียนรถปลอมนำรถหลุดจำนำข้ามขายลาว

เวลา 13.00 น.วันที่ 3 ก.ย.59 ที่สะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 อ.เชียงของ จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรเชียงของ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ทหารพราน ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง อ.เชียงของ และตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) 326 ร่วมกันจับกุมนายองอาจ ลาสอน บ้านเลขที่ 141/6 ถนนเจริญราษฎร์ ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา น.ส.สุชิน ศรีวงค์ บ้านเลขที่ 60 ม.19 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนุบรี และนายสันติ์ จีนดอนไพร บ้านเลขที่ 37/2 ม.5 ต.ช่องด่าน อ.บอพลอย จ.กาญจนบุรี น.ส.ปัญญา ชัยน่วม บ้านเลขที่ 61/2 ม.4 ต.บ่อพลอย อ.บ่อยพลอย จ.กาญจนบุรี พร้อมกับตรวจยึดของกลางเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว 2 คัน หมายเลขทะเบียน ก 7730 ปทุมธานี และ บร 1253 กาญจนบุรี

โดยการจับกุมครั้งนี้ทางเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณด่านพรมแดน ที่สะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมไทย-สปป.ลาว น.ส.สุชิน และ น.ส.ปัญญา นำใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์กระบะทั้ง 2 ดังล่าวระบุเป็นป้ายทะเบียน 1 ฒถ 2706 และทะเบียน 1 ฒล 7582 กรุงเทพฯ ไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ที่ด่านพรมแดนเพื่อขออนุญาตนำรถยนต์ดังกล่าวออกนอกราชอาณาจักรในเวลาใกล้เคียงกัน จากนั้น นายองอาจ และนายสันติ์ ได้ขับรถคันละคันไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบคู่มือจดทะเบียนรถพบพิรุธมีการแก้ไขวัน เดือน ปี ที่ครองครองรถและรุ่นปีรถ จึงได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดทำให้ทราบว่ารถทั้ง 2 คันติดป้ายทะเบียนปลอมจึได้ทำการควบคุมตัวทั้ง 4 คนเอาไว้พร้อมกับยึดรถยนต์ทั้ง 2 คันเอาไว้ตรวจสอบ

จากการสอบสวนจนทราบว่ารถคัน 2 คัน เป็นรถหลุดจำนำ โดยซื้อมาในราคาคันละ 310,000 บาท และ 250,000 บาท ก่อนจะจ้างคนชื่อเล็กและมืด ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงเป็นคน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ให้เป็นผู้ติดต่อทำคู่มือจดทะเบียนรถปลอมทั้ง 2 คัน ให้ที่กรุงเทพฯ เมื่อได้รถแล้วได้ติดต่อนายโต นักธุรกิจค้ารถชาวเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงของ จ.เชียงราย ให้มารับซื้อโดนตกลงราคาที่คันแรก 400,000 บาทและคันที่ 2 ราคา 300,000 บาท และให้นำรถไปส่งมอบให้ที่ ห้วยทราย แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและจับได้ในที่สุด โดยเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาว่ามีและใช้เอกสารราชการปลอมและแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แสดงความคิดเห็น