เพิ่งคบกับแฟนไม่นานคะ ประมาณ ครึ่งปีได้ เราทำงานที่เดียวกัน แผนกเดียวกัน เค้าเป็นหัวหน้าคะ ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า แฟนติดแม่ เค้าโทรคุยกับแม่ตลอดเวลา ที่ว่าตลอดคือ เช้า เค้ามารับ กิ๊ฟก็จะโทรหา เพื่อจะบอกว่า เสร็จแล้วนะ ติดสายซ้อนคะ แม่เจ้า! เพิ่งออกมาจากบ้าน ทำงานค่ะ สัก 9 โมงโทรละ เวลางาน ก็จะแบบทำงานนะคะ ก็จะว่า แม่แปบนึงนะ คือคุยไปทำงานไป ชั่วโมงละครั้ง (หรือมากกว่านั้น) ได้
เราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหานะคะ แต่ว่า เยอะไปไหม? เที่ยง บ่ายโมง บ่ายสาม ขับรถ ถ้าวันไหนอยู่กับเรา เข้าห้องโทรคุยครึ่งชม.-2 ชม.ได้ต่อครั้ง แม่ก็คือแม่ แม่ใครใครก็รัก แต่ว่าคิดว่ามากเกินไปมั้ยคะ พี่เค้าอายุ 33 แล้วนะคะ และที่สำคัญคือ แม่เค้ายังไม่อนุญาตให้เค้ามีแฟน และเค้าก็รับปาก เรายังไม่ได้อยากเจอก็คิดว่า คบกันไปวันต่อวัน มีความสุขวันต่อวัน แต่ว่าอายุขนาดนี้แล้ว ไม่น่าจะไหว คิดว่าต้องเป็นปัญหาระยะยาวแน่ๆ จะพูดก็กลัวเค้าลำบากใจ คิดแล้วก็กลุ้มใจค่ะ
คำตอบ :
สวัสดีค่ะ
ถามมาดามรักว่า อาการนี้เยอะไปไหม มาดามรักก็ว่าเยอะไปนะคะ แต่มันเป็นพฤติกรรมที่ทำจนติดเป็นนิสัย เป็นธรรมชาติของคู่แม่ลูกคู่นี้ไปแล้ว มองๆ ไป เราก็คนนอก เราก็มาทีหลังนะคะ คุณกิ๊ฟ จะไปแทรกแซง หรือ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเขา ให้โทรน้อยลง คุยกันน้อยลง มันก็จะไปทำร้ายจิตใจคนแก่นะ คุณกิ๊ฟ ต้องมองในหัวอกของคนเป็นแม่ด้วยนะคะ เขาก็อยู่กันมาปรกติสุขดี ถ้ามีเราไปเพิ่มแล้วต้องเปลี่ยนแปลงความใกล้ชิดระหว่างแม่ – ลูกเขา แม่ที่ไหนจะไม่น้อยใจ
เอาเป็นว่า มาดามรัก ไม่ได้เข้าข้างแม่เขา หรือว่าใครค่ะ แต่คุณกิ๊ฟก็พอจะมองเห็นแล้วว่า ครอบครัวนี้ เขามีวัฒนธรรม แบบนี้ คุณรับได้หรือไม่ แบบที่ไม่ต้องไปเปลี่ยนให้เขาเป็นแบบที่เราคิด แต่เราปรับตัวปรับใจให้เข้ากับเขาและครอบครัวเขาได้ เขารักแม่เขาเราก็รักด้วย ถ้าเขาจะตามใจแม่เขาเราก็ตามใจด้วย อยู่อย่างอดทน และรับสภาพตัวเองให้ได้ เท่านี้ล่ะค่ะ ทำได้ไหมคะ ? ลองเอากลับไปคิดดูนะ
ที่มา : women.mthai