วันที่ 30 พ.ค.62 ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นายแพทย์สำเริง สีแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นายแพทย์พงศกร พงศาพาส ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ผู้รับผิดชอบศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อมเจ้าหน้าที่และญาตินายพงศธร อัมพุธ อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 180 หมู่ 3 ต.หนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ผู้เสียชีวิตที่แจ้งความจำนงค์ขอบริจาคอวัยวะผ่านศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าวหลังจากที่นายพงศธร ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตหลังจากเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน โดยผู้เสียชีวิตได้ทำเรื่องขอบริจาคอวัยวะตัวเองเอาไว้ทางโรงพยาบาลได้แจ้งให้ญาติรับทราบเพื่อดำเนินการตามความประสงค์ของผู้เสียชีวิต
นายแพทย์สำเริง กล่าวว่าทางโรงพยาบาลต้องขอขอบคุณครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมากที่อนุญาตให้นายพงศธรได้บริจาคอวัยวะ เพราะถือว่าได้ประโยชน์ในช่วยเหลือผู้ป่วยให้รอดชีวิตได้อีกหลายรายซึ่งถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ เพราะในปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยกว่า 6,241 รายที่จำเป็นต้องได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะโดยส่วนใหญ่เป็นอวัยวะไตถึง 6,000 กว่าราย รองลงมาคืออวัยวะตับ 247 ราย หัวใจและปอดอย่างละ 23ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงแต่พบว่าบริจาคอวัยวะได้ในปี 2562 มีเพียง 111 รายและมีผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเพียง 255 ราย ซึ่งถือว่ายังไม่เพียงพอ ปัจจุบันโรงพยาบาลจึงได้มีการประชาสัมพันธ์ในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนในสังคมได้เห็นถึงความสำคัญของการบริจาคอวัยวะ
ด้านนายแพทย์พงศกร กล่าวว่าศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2557 ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2550 และได้เปลี่ยนเป็นศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะเมื่อปี 2557 ได้มีผู้ประสงค์บริจาคอวัยวะและสมารถนำอวัยวะไปปลูกถ่ายต่อได้จำนวน 39 ราย สามารถช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยได้ 100 กว่าราย ส่วนใหญ่เป็นการปลูกถ่ายกระจกตา 26 ราย ที่เหลือเป็นอวัยวะอื่นๆ สำหรับกรณีของนายพงศธร สามารถนำอวัยวะไปปลูกถ่ายได้ถึง 6 ชิ้นคือหัวใจ ตับ ไตจำนวน 2 ข้าง กระจกตาจำนวน 2 ข้าง สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอรับการรักษาได้ถึง 6 รายซึ่งถือว่าเป็นบุญกุศลอย่างมาก ปัจจุบันโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์มีศักยภาพในการปลูกถ่ายอวัยวะแต่ก็พบการขาดแคลนการบริจาค ทางโรงพยาบาลจึงได้ดำเนินการ ออกให้ความเข้าใจต่อประชาชนถึงความสำคัญ ภายในโรงพยาบาลก็ทำการค้นหาผู้ป่วยที่จะบริจาคอวัยวะและอีกขั้นตอนคือเมื่อได้อวัยวะแล้วก็ทำการปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยตามขั้นตอนต่อไป
นายวัชระ อัมพุธ อายุ 56 ปีบิดาของนายพงศธร กล่าวว่าบุตรชายของตนจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนดอกคำใต้วิทยาคม และได้สอบติดเพื่อเตรียมเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนเรศวร แต่ได้ประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งลงข้างทางทำให้ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน และไม่รู้สึกตัวมาตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาลพะเยาจากนั้นจึงมีการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์กระทั่งได้เสียชีวิตในที่สุด ทางครอบครัวของเราก็ได้รับทราบจากแพทย์ว่าบุตรชายได้ทำเรื่องขอขอบริจาคอวัยวะผ่านศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยแล้ว ซึ่งทำให้พวกเรารู้สึกแปลกใจและยังรับไม่ได้ในช่วงแรกแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเจตจำนงค์ของลูกที่เขาได้ตั้งใจเอาไว้จึงได้ร่วมอนุโมทนาบุญและคิดเสียว่าแม้เราจะเสียใจมากแต่ลูกของเราก็ได้ไปช่วยเหลือคนได้ถึง 6 คน จึงอนุญาตให้แพทย์ได้ดำเนินการตามขั้นตอน