เวลา 10.30 น.วันที่ 4 ต.ค.56 ที่บริเวณถนนสาย แม่จัน – เชียงแสน ที่บ้านร่องเรือ ม.1 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจ ปช.ปส. กำลังทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดจำนวน 4 คน พร้อมของกลางเป็น ยาบ้า จำนวน 976,000 เม็ด เฮโลอีน จำนวน 100 แท่งน้ำหนัก 35 กิโลกรัม และยาไอซ์จำนวน 1 กิโลกรัม โดยผู้ต้องหาคือ นายอาหลุ่ม ดาลา อายุ 36 ปี ชาวเขาเผ่าอาข่าอยู่บ้านเลขที่ 16/1 ม.16 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจะตี ม.16 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นายกฤตภัค ดาลา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.16 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ชาวเขาเผ่าอาข่า นายทิศพาเนตร เลาซาง อายุ 27 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.1 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และนายวิกรม รักกฎหมาย อายุ 28 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.4 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงราย
โดยการจับกุมในครั้่งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ได้รับแจ้งจากสายข่างของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาจากชายแดนด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อจะนำมาส่งที่บริเวณวงเวียนก่อนเข้า อ.เชียงแสน จึงได้ออกติดตามขบวนการดังกล่าว จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโลเล็ต สีน้ำตาลดำ หมายเลขทะเบียน บห 4490 เชียงราย ขับนำทางมาและ รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน ผบ 8856 เชียงใหม่ ขับตาม โดยได้ขับมาจาก อ.แม่ฟ้าหลวง มุ่งหน้าเข้า อ.แม่จัน จึงได้สกะกดรอยติดตาม จนกระทั่งรถทั้ง 2 คันได้มาถึงที่บริเวณสามแยกแม่จันได้เลี้ยวซายไปทาง อ.เชียงแสน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสัญญานให้จอดรถ แต่คนขับรถทั้ง 2 คนได้เร่งเครื่องหลบหนีจนกระทั่งมาถึงที่บริเวณ บริเวณถนนสาย แม่จัน – เชียงแสน ที่บ้านร่องเรือ ม.1 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตัดสิบใจใช้อาวุธปืนยิงที่บริเวณล้อหน้าด้านซ้าย ของรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าววีโก้ แต่รถคันดังกล่าวยังไม่หยุดเจ้าหน้าทีจึงได้ยิงล้อหน้าด้านขวาอีกครั้ง จึงสามารถหยุดรถคันดังกล่าวได้ และเจ้าหน้าที่สามารถหยุดรถเซฟโรเล็ตได้พร้อมควบคุมตัวผู้ที่อยู่ภายในรถได้
จากการตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าวพบว่ามีกระสอบป่านดัดแปลงเป็ฯเป้สะพยาอยู่ภายในแคป รถกระบะโตโยต้าวีโก้ จำนวนมาก จึงได้เปิดออกดูภายในพบว่ายาเสพติดอยู่ภายใน เป็นยาบ้าจำนวน 976,000 เม็ด เฮโลอีน จำนวน 100 แท่งน้ำหนัก 35 กิโลกรัม และยาไอซ์จำนวน 1 กิโลกรัม จึงได้ควบคุมตัวทั้ง 4 คนไว้ เบื้องต้นทั้งหมดได้ให้การรับสารภาพว่าได้รับว่าจ้างจากมั่ว ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ให้ลำเลียงยาบ้ามาจาก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แล้วนำรถไปจอดที่ วงเวียนถนนบายพาส อ.เชียงแสน โดยจะมีคนมารับช่วงขับต่อไป โดยเป้าหมายที่จะนำไปส่งคือที่ จ.ชุมพร ซึ่งทั้งหมดจะได้รับค่าจ้างคนละ 50,000 บาท โดยจะได้รับงินเมื่อทำงานเสร็จ
ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การจับกุมยาเสพติดในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏบัติงานร่วมกับทุกหน่วยงานในพื้นที่โดยเป็นการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อให้การทำงานลุล่วง โดยการจับกุมในครั้งนี้พบว่าขบวนการดังกล่าวมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งเฮโลอีน ยาบ้าและยาไอซ์ ซึ่งปลายทางของยาเสพติดล็อตนี้คาดว่านะอยู่นอกประเทศเนื่องจากพบว่ามีการแพ็คเป็นอย่างดี และเฮโลอีนไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย และผู้ต้องหาให้การว่าจะนำไปส่งที่ จ.ชุมพร ซึ่งคาดว่าหากไปถึงจะต้องลำเลียงส่งออกไปนอกประเทศอย่างแน่นอน ซึ่งหากหลุดรอดไปได้จะมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับ 1 ในผู้ต้องหาที่เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนั้น จะต้องรับโทษสูงกว่าผู้ต้องหาคนอื่นเนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อย่างไรก็ตามได้ให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามหาตัวนายมั่ว แล้ว คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในไม่ช้า
สำหรับยาเสพติดในล็อตนี้พบว่าผู้ผลิตคือ พ.ท.ยี่เซ โดยสังเกตุจากตรามือจับกันที่ห่อบรรจุ ด้าน พ.ท.ยี่เซ นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งหมายจับให้กับทางประเทศพม่าแล้ว และได้มีการตั้งรางวัลนำจับ 5 ล้านบาทให้กับผู้ที่จับกุมได้ โดยทางประเทศพม่าก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเนื่องจาก พ.ท.ยี่เซ เป็นผู้ที่ผลติยาเสพติดรายใหญ่ในประเทศพม่า โดยอาศัยอยู่กับชนกลุ่มน้อยทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าทางการพม่าจะสามารถจับกุมได้ในอีกไม่นานนี้