วันที่ 21 ส.ค.63 จากกรณีที่เรือแม่โขงเดลต้าซึ่งเป็นเรือท่องเที่ยวแม่น้ำโขงสัญชาติไทยลำแรกในแม่น้ำโขง จมอยู่ในแม่น้ำโขงริมฝั่งหมู่บ้านป่าสักหางเวียง หมู่ 3 ต.เวียง อ.เชียงแสน เพราะฝนตกหนักและเชือกมัดริมฝั่งหลุดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยยังไม่สามารถกู้เรือขึ้นมาบนฝั่งได้เนื่องจากมีน้ำหนักมากและระดับน้ำยังลึก ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ทั้ง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ทหารกองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง ล่าสุดทำได้เพียงผูกเรือให้ติดกับฝั่งและนำถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรประมาณ 50 ถังมาผูกโยงกับเรือเอาไว้เพื่อกันเรือเอียงและ นำป้ายไปติดเอาไว้เพื่อไม่ให้เข้าใกล้เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย
ล่าสุดพบว่ามีแนวโน้มว่าระดับน้ำในน้ำโขงเพิ่มมากกว่าเดิมเนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่จีนตอนใต้ ประกอบกับทางการจีนได้ปล่อยน้ำจากเขื่อนจี่งหง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ในอัตรา 1,594 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำบริเวณหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน ห่างจากจุดเรือล่มเล็กน้อยลึกถึงระดับ 4.69 เมตร โดยเมื่อวันี่ 19 ส.ค.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย วัดระดับได้ลึกประมาณ 3.99 เมตร
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา เจ้าของเรือ เปิดเผยว่าปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำโขงโดยเฉพาะเหนือเขื่อนจิ่งหงสูงมากและยังมีแนวโนมจะเพิ่มระดับขึ้นอีก ทำให้มีการระบายน้ำลงมามากส่งผลต่อระดับน้ำในแม่น้ำโขง ซึ่งหังจากที่หน่วยซีลของกองทัพเรือ สถานีเรือเชียงแสน นรข.เขตเชียงราย ได้ดำสำรวจสภาพรอบเรือแล้วพบว่าหากเข้าใกล้เรือจะมีอันตรายมากเพราะเกิดกระแสน้ำวนที่ดูดสิ่งที่อยู่รอบเข้าไปได้ ดังนั้นจึงได้ใช้ถังน้ำมันประคองเรือเอาไว้ คาดว่าหากโชคดีอาจจะรอให้น้ำลดลงเหลือระดับประมาณ 2.50 เมตรแล้วจึงทำการยกด้านหลังเรือขึ้นเพื่อนำเครื่องสูบน้ำเข้าไปสูบน้ำออกได้ก่อนจะพยุงให้เรือลอยลำได้ ซึ่งก็คาดว่าอาจจะเป็นช่วงเดือน ธ.ค.ปีนี้หรือเดือน เม.ย.2564