ที่ห้องประชุมเชียงรุ้ง โรงแรมเวียงอินทร์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย มูลนิธิพัฒนาไทร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และวุฒิอาสาธนาคารสมองภาคเหนือ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “รวมพลังวุฒิอาสาธนาคารสมองภาคเหนือ” ระหว่างวันที่ 24-26 พ.ย.นี้ โดยมีดร.ปรเมธี วิมลศิริ ประธานกรรมการมูลนิธิพัฒนาไท ประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธาน กิจกรรมมีการรวมตัวกันของวุฒิอาสาฯ และภาคีเครือข่ายประมาณ 500 คน และมีการนำเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคเหนือและทิศทางการขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ ดัชนีความก้าวหน้าของคนในภาคเหนือ ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการของเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมากมาย เช่น ผลิตภัณฑ์จากบ้านเมืองรวง อ.เมืองเชียงราย ผลิตภัณฑ์ครีมและขมิ้นชันนักวิจัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ในโอกาสเดียวกันนี้ทางนายปรเมธีได้แสดงความยินดีกับ ผศ.ดร.ภญ.รัตติรส คนการณ์ หรือ ดร.ออย ชาว จ.น่าน นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชศาสตร์,สมุนไพร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้ค้นคว้าวิจัยและร่วมจัดทำผลิตภัณฑ์ครีมนวดแก้ปวดจากสมุนไพรและขมิ้นชันซึ่งพึ่งได้รับรางวัล 2 เหรียญทอง ด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมดีเด่นจากงาน EUROEVENT 2020 จากทวีปยุโรปเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาได้รับรางวัล 2 เหรียญทองจากการประกวดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมดีเด่น รวมทั้งตัว ผศ.ดร.ภญ.รัตติรส เองยังได้รับรางวัลนักวิจัยหญิง The Best Inventor Aword จากประเทศแคนาดา ล่าสุดในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมายังได้รับเหรียญทองแดงจากประเทศเกาหลีใต้อีกด้วย
ผศ.ดร.ภญ.รัตติรส เปิดเผยว่า ประเทศไทยเรามีสมุนไพรมากมายแต่การนำมาใช้ประโยชน์จนเป็นที่ยอมรับทั่วโลกยังเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาและค้นคว้าวิจัยเพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรณีครีมสมุนไพรลดอาการปวด บวม อักเสพตามข้อและกล้ามเนื้อนั้นสมุนไพรไทยมีสรรพคุณดีมาก แต่ปัญหาของครีมทั่วไปคือเมื่อนำมาสกัดแล้วใช้ทาผิวหนังจะออกฤทธิ์ได้นานเพียง 15 นาทีจากนั้นความร้อนก็จะหายไป แต่การวิจัยคือใช้ระบบนาโนเทคโนโลยีด้วยการสกัดสมุนไพรในอานุภาพขนาดกลางที่เล็กกว่าเส้นผมถึง 800 เท่า จึงมีความพิเศษกว่าเพราะทำให้สามารถซึมลึกไปถึงจุดที่ปวดอักเสพแล้วจึงค่อยๆ ปล่อยสรรพคุณออกมา และยังออกฤทธิ์ได้นานถึง 24 ชั่วโมงแม้ว่าจะล้างผิวหรืออาบน้ำแล้วก็ตาม จึงมีประสิทธิภาพตามสรรพคุณได้ดีกว่า
ส่วนขมิ้นชันของไทยนั้นถือว่ามีสรรพคุณที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าบรรเทาโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน ลดไขมันในเส้นเลือด ลดน้ำมันตาลในเลือด ลดข้อเสื่อม ป้องกันโรคมะเร็ง แต่ปัญหาคือสมุนไพรชนิดนี้จะไม่ละลายในน้ำจึงทำให้ไม่สามารถดูดซึมแล้วร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้คว้นคว้าวิจัยเพื่อให้สามารถละลายน้ำได้ด้วยการใช้นาโนเทคโนโลยีเข้าไปห่อหุ้มสารในขมิ้น ซึ่งทำให้เกิดการละลายในน้ำได้ในที่สุดซึ่งถือเป็นรายแรกของประเทศไทย และเท่าที่ทราบทั่วไปคือผู้วิจัยและจัดทำผลิตภัณฑ์ทั่วไปมีความพยายามจะทำให้เกิดการละลายแต่ยังไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เช่นนี้มาก่อน