เวลา 10.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 2565 ที่ สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา จังหวัดเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายฌอน โอนีลล์ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ ได้พบปะสื่อมวลชน เพื่อร่วมพูดคุยรายงานผลการปฏิบัติงานของสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา พร้อมกับให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับประเด็นที่สื่อมวลชนสนใจ
นายฌอน โอนีลล์ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ขณะนี้สถานกงสุลสหรัฐฯ แห่งนี้เปิดทำการคู่กับจังหวัดเชียงใหม่มาแล้ว 72 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาเชียงใหม่และสหรัฐมีความร่วมมือที่ดีมาโดยตลอดและในทุกด้าน โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา ทางสหรัฐฯ ได้ให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดเชียงใหม่ ด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม การแก้ไขหมอกควันและไฟป่า ทางสหรัฐฯบริจาคเงินไปแล้วกว่า 1 แสนเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยกว่า 3 ล้านบาท พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี ให้ทางการไทยสามารถเข้าถึงระบบภาพถ่ายทางดาวเทียมของสหรัฐฯ ที่มีความทันสมัยเพื่อให้การเข้าดับไฟหรือแก้ไขปัญหามีความแม่นยำมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการบริจาคเครื่องฟอกอากาศให้กับสถานศึกษาหลายแห่ง เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนให้มีอากาศสะอาดหายใจในช่วงที่มีปัญหาหมอกควันไฟป่า
ขณะที่ด้านสาธารณสุข ทางสหรัฐฯมีความร่วมมือกับทางการไทยในหลายเรื่อง อย่างในอดีตถึงปัจจุบัน สหรัฐฯได้ช่วยเหลือไทยในหลายเรื่อง โดยเฉพาะล่าสุด การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สหรัฐฯได้บริจาควัคซีนให้กับประเทศไทยไปแล้วจำนวน 2.5 ล้านโดส และจะมีความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในการช่วยเหลือประเทศไทยต่อสู้กับโควิด-19
กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทางสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ จะมีการเตรียมการย้ายที่ทำการแห่งใหม่ อยู่ที่ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง ที่จะมีสถานที่ใหญ่กว่าเดิม มีมูลค่าลงทุนก่อสร้างกว่า 284 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยกว่า 9 พันล้านบาท การก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ จะสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นเพราะมีการใช้แรงงานในพื้นที่กว่า 400 คนในการก่อสร้าง การสร้างสถานกงสุลฯ ไม่ใช่การลงทุนที่สหรัฐฯทำเพื่อเพิ่มอำนาจในภูมิภาคนี้ตามที่มีข่าวลือออกมา แต่เป็นการพัฒนาการให้บริการและพื้นที่รับรองผู้ที่มาติดต่อราชการ ตลอดเวลาที่ผ่านมาสถานกงสุลฯแห่งปัจจุบันให้บริการทั้งชาวไทยและชาวสหรัฐไปแล้วกว่า 12 ล้านคน
โดยสถานกงสุลฯแห่งใหม่ จะเป็นอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบจะมีความเป็นล้านนาเชียงใหม่ มีการนำเทคโนโลยีในการประหยัดพลังงานที่ทันสมัยมาใช้ รวมถึงระบบบำบัดน้ำเสียที่จะนำน้ำหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ ให้ความมั่นใจว่าสถานกงสุลฯแห่งใหม่ จะไม่ปล่อยน้ำเสียออกสู่ชุมชนโดยรอบ และสุดท้ายยืนยันว่าสถานกงสุลฯแห่งใหม่ ไม่ใช่สถานที่เก็บอาวุธหรือยุทโธปกรณ์ทางทหารของกองทัพสหรัฐฯ ตามที่มีการปล่อยข่าวลือออกมา
“สำหรับสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย ขณะนี้สร้างผลกระทบกับทั่วโลกในเชิงเศรษฐกิจ แต่ทางสหรัฐฯกับประเทศไทย มีความสัมพันธ์ทางการทูตมายาวนาน 200 ปี และไทยเป็นมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐในภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเพื่อนจำนวนมากซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ทางสหรัฐฯไม่มีสิทธิ์ไปบอกว่าในประเทศไทยคบเพื่อนคนไหน ให้ความมั่นใจได้ว่า ทางสหรัฐฯจะยังสนับสนุนประเทศไทยในทุกๆด้านอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการป้องกันประเทศ ด้านการปราบปรามอาชญากรรม ปราบยาเสพติด และ ด้านเศรษฐกิจ” นายฌอน โอนีลล์ กล่าว