machine a sous tropezia

เวลา 10.00 น.วันที่ 20 ก.พ.57 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด อ.เวียงป่าเป้า นำโดยนำนายสุทน คำแปง ผู้ใหญ่บ้านห้างต่ำ ม.3 ตงป่างิ้ว อ.เวียงป่าเปา และนายไพโรจน์ กันทะเสน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า พร้อมเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด กว่า 100 คน เดินทางมาเพื่อเรียกร้องขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าชดเชยตามโครงการจำนำข้าวโพดฤดูกาล 2556/2557 หลังจากกลุ่มเกษตรกรจำนวนมากยังไม่ได้รับเงินค่าชดเชยจากโครงการรับจำนำข้าวโพดดักล่าว ซึ่งผ่านมาแล้วหลายเดือน

โดยแกนนำของผู้ปลูกข้าวโพดได้แจ้งข้อเรียกร้องไปยังทางจังหวัดที่ 4 ข้อคือ 1.ให้จังหวัดชี้แจงงบประมาณดังกล่าวที่รัฐบาลได้จัดสรรให้กับพื้นที่ จ.เชียงราย 2. ให้จังหวัดชี้แจงการจัดสรรงบประมาณตามโครงการดังกล่าวไปให้กับเกษตรกรในแต่ละอำเภอใน จ.เชียงราย และ 3.ให้จังหวัดตรวจสอบรายชื่อเกษตรกรในโครงการ 4.ให้จังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังคงตกค้างไม่ได้รับเงินค่าชดเชยใน อ.เวียงป่าเป้า

หลังจากนั้น นายเฉลิมพล พงษ์ฉบับนภา พาณิชย์จังหวัดเชียงราย ได้เดินเชิญผู้ปลูกข้าวโพดที่มาชุมนุมเข้าไปที่ห้องประชุม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงรายเพื่อชี้แจงถึงงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรลงไปให้เกษตรกรก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งจังหวัดมีเงินที่จะได้รับค่าชดเชยตามโครงการรวมจำนวน 235,601,029.40 บาท ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณไปให้แล้วจำนวน 153 ล้านบาท ปัจจุบันจึงเหลือคงค้างที่จะต้องจ่ายให้เกษตรกรอีกประมาณ 81 ล้านบาท ซึ่งการจ่ายงบประมาณเป็นไปในรูปแบบของคณะกรรมการและมีผู้ตรวจการจากส่วนกลางเข้าร่วมด้วยจึงต้องมีการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ให้ละเอียด ดังนั้นจึงแจ้งให้เกษตรกรลงรายชื่อเอาไว้เพื่อการตรวจสอบซึ่งก็สอดคล้องกับข้อเรียกร้อง โดย

ขอให้เกษตรกรกลับไปรออีกประมาณ 30 วัน

ซึ่งทางพาณิชย์จังหวัดได้แจ้งต่อผู้ปลูกข้าวโพดว่าใน อ.แม่สรวย มีโควต้าที่จะได้รับการจัดสรรงบประมาณ 46 ล้านบาท และได้รับไปแล้วจำนวน 33 ล้านบาท ส่วน อ.เวียงป่าเป้า มีโควต้าที่จะต้องได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 97 ล้านบาท และได้รับการจัดสรรไปแล้วจำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งทั้งจังหวัดยังมีปัญหาจึงต้องมีการตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติให้ละเอียด เพราะมีการกำหนดโควต้าผลผลิตทั้ง จ.เชียงราย เอาไว้ที่จำนวน 156,000 ตัน แต่กลับมีการแจ้งยอดเกินกว่า 256,000 ต้น ทำให้นอกจากต้องตรวจสอบแล้วกรณีเป็นของเกษตรกรที่เดือดร้อนจริง ทางพาณิชย์จังหวัดก็ได้ประสานไปยังรัฐบาลเพื่อขอนำโควต้าที่คงเหลือจากจังหวัดอื่นๆ เข้าไปชดเชยเพิ่มเติมด้วย ทำให้กลุ่มชาวบ้านพอใจและแยกย้ายกันกลับไปรอฟังผลการดำเนินการ