นักวิชการ มข.ฟันธงรัฐบาลเพื่อไทยอยู่ไม่ครบ 4 ปี หลังต้องเจอศึกภายในและภายนอกเต็มรูปแบบ เพราะเพียงเริ่มก้าวก็คะแนนติดลบแล้ว มั่นใจก้าวไกลทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้ดี เพราะข้อมูลแน่นและมีทีมขุดคุ้ยชัดเจน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 ส.ค.2566 ที่ห้องประชุมชั้น 7 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. รศ.ดร.พรอัมรินทร์ พรหมเกิด อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มข. ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่า การเริ่มต้นของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยนั้นติดลบอย่างชัดเจน เพราะไม่เป็นไปตามที่ประชาชนคาดหวังและเป็นไปตามเสียงของประชาชนที่ลงคะแนนเลือกตั้งให้ ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลด้วยพรรคร่วม 11 พรรค ถือเป็นเรื่องเดิมเพิ่มเติมคือพรรคเพื่อไทยในการบริหารประเทศ จึงทำให้ภาพที่คนไทยทั้งประเทศคาดหวังไว้ที่จะเป็นคณะรัฐมนตรีในฝันนั้นจบลงเหลือเพียงภาพของรัฐบาลชุดเดิมที่มีพรรคเพื่อไทยเข้าไปร่วมเท่านั้น

ซึ่งโดยส่วนตัวยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่ได้ไม่ครบ 4 ปี เพราะพรรคเพื่อไทยแม้จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลก็จะต้องเจอศึกใหญ่ 2 ด้านที่ขณะนี้ได้เกิดขึ้นแล้วเริ่มจากศึกภายในที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคล้วนแต่เป็นเสือ สิงห์ กระทิง แรด ทุกคนล้วนต่างต้องการตำแหน่งเพราะทุกพรรคมีนายทุนหนุนหลัง บางพรรคมีทหารเป็นกำแพง ดังนั้นตำแหน่งรัฐมนตรีโดยเฉพาะรัฐมนตรีเกรดเอ จึงเป็นที่คาดหวังของพรรคร่วมรัฐบาลที่ส่วนใหญ่เป็นคนเดิมทั้งนั้นดูได้จากรายชื่อที่ประกาศว่าที่รัฐบาลมนตรีแต่ละกระทรวงออกมา

“ เพื่อไทยไม่มีอำนาจใดๆในการบริหารประเทศ แม้กระทั่งรัฐมนตรีที่กำลังจัดทัพในยุคเศรษฐา 1 ก็ยากแล้ว ยังไม่นับรวมความเก๋าเกมส์และความเชี่ยวชาญทางการเมือง ที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคนั้นไม่ธรรมดา จึงทำให้การบริหารงานและการบริหารประเทศนั้นอยู่ยาก และที่สำคัญการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา ทำให้ภาพของพรรคเพื่อไทยนั้นติดลบมาก เพราะเป็นภาพที่ทำให้คนไทยนั้นรับได้ ทำไมพรรคเพื่อไทยต้องท้าทายพลังประชาชนขนาดนี้ หลายคนร่วมต่อสู้กันมา เสียชีวิต เสียเลือด เสื้อน้ำตา สูญเสียอะไรต่อมิอะไร แต่วันนี้คนที่ตนเองเลือก คนที่ตนเองรักกลับมาบอกว่าสลายขั้วการเมือง มันไม่ถูกต้อง ปากพูดตลอดว่ามีลุงไม่มีเรา แต่เมื่อมาเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกลายมาเป็นลุงไม่ช่วยก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล”

รศ.ดร.พรอัมรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า ยืนยันว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยอยู่ไม่ครบเทอม เพราะนอกจากศึกภายในของพรรคร่วมรัฐบาลที่เริ่มขึ้นแล้วนั้น ยังคงมีศึกภายนอก ที่พรรคก้าวไกล นั้นเตรียมทีมในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ที่ลงลึก เจาะครบทุกประเด็น ข้อมูลแน่น กล้าที่จะเปิดเผยและเปิดโปงข้อมูลอันชอบธรรมและข้อเท็จจริงให้กับประชาชนได้รับทราบในการเป็นผู้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดย 4 ปีที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้อย่างโดดเด่น และสมกับการเสียภาษีของประชาชนที่จ่ายให้ ดังนั้นนับตั้งแต่วันนี้ไปมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้อย่างชัดเจน และเป็นฝ่ายค้านที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างชัดเจน โดยจะทำงานอย่างเข้มข้นกับพรรคไทยสร้างไทย,พรรคเป็นธรรม ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องพูดถึง