ภาคอุตสาหกรรมขอนแก่น มั่นใจประชุม ครม.นัดแรก “เศรษฐา”ทำได้จริง ตามที่ประกาศลดค่าพลังงานทั้งระบบ แต่ห่วงภาวะคงคลังและเงินหมุนเวียนเพราะใช้เงินมาก พร้อมเสนอตัวเป็นแซนบ็อคเขตเศรษฐกิจสมัยใหม่ ตามที่ได้หาเสียงไว้
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 6 ก.ย.2566 ที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น นายทวีสันต์ วิชัยวงษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ที่ จ.ขอนแก่น ว่า นโยบายที่นายเศรษฐ ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้ประกาศไว้ว่าหลังการประชุม ครม.นัดแรกจะประกาศลดค่าพลังงานทันที ทั้งในส่วนชของน้ำมัน,ไฟฟ้าและราคาก๊าซ ซึ่งภาคอุตสาหกรรมมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีนั้นทำได้จริง และจะเป็นผลดีกับประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและภาคเอกชน ที่ต้องแบกรับต้นทุนการผลิตจากค่าพลังงานมาอย่างยาวนานและไม่มีท่าทีที่จะได้รับการแก้ไข ซึ่งถือเป็นข่าวดีและสัญญาณที่ดีอย่างมากที่รัฐบาลที่ขณะนี้มีคณะรัฐมนตรีและโฉมหน้าคร่าตาของรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงมาแล้ว ก็ขอให้ทำทันที อย่าปฎิเสธ ดำเนินงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเร่งด่วนในทุกนโยบายที่กำหนด
“ เป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงมาก ทั้งในครัวเรือนของภาคประชาชน หรือในภาคอุตสาหกรรมและเอกชนต่างๆที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนเรื่องพลังงานมาอย่างยาวนาน แม้จะมีมาตรการเยียวยาใดๆออกมาบ้าง แต่การประกาศลดพร้อมกันทุกพลังงานตามที่นายกรัฐมนตรีกำหนด ทุกคนเห้นด้วยและเฝ้ารอปรากฎการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่กังวลตามมาคือภาวะคงคลังและระบบเงินหมุนเวียน เพราะการประกาศลดราคาค่าพลังงาน ก็จะมีเม็ดเงินที่เข้าไปเติม เข้าไปทดแทน หรือรายรับ จ่าย รายจ่ายบางอย่างต้องหายไป ดังนั้นการบริหารจัดการเรื่องการเงินการคลัง ในนโยบายดังกล่าวต้องละเอียดรอบคอบและถี่ถ้วนด้วยเพราะอาจจะส่งผลกระทบในระยะยาวได้”
นายทวีสันต์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรมได้ร่วมกันทำการบ้านและเตรียมที่เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีกำหนดการลงพื้นที่ที่ จ.ขอนแก่น ในช่วงปลายสัปดาห์นี้คือการติดตามตามนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้และเป็นความหวังของคนขอนแก่นอย่างมากคือการกำหนดให้ขอนแก่น เป็น 1 ในเมืองเศรษฐกิจสมัยใหม่ หรือ NEW BUSINESS ZONE 1 ในเมืองหลักของไทย ซึ่งขอนแก่นวันนี้พร้อมเสนอตัวที่จะเข้าร่มโครงการและเป็นแซนบ็อคต้นแบบเขตเศรษฐกิจสมัยใหม่ด้วยศักยภาพคามพร้อมในทุกๆด้าน จึงมั่นใจว่านโยบายดังกล่าวจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่ผู้นำระดับประเทศที่กำหนดนโยบายมาแล้ว และมารับฟังปัญหาและความต่างในเชิงพื้นทีจะนำไปสู่แผนแม่บทในการดำเนินงานที่ชัดเจนและทำได้จริง