เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 14 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายปกาญจน์ นพศรี ประธานสภาทนายความจังหวัดพล นำนางอรศรี ปะริวันตา อายุ 41 ปีอยู่บ้านเลขที่ 26 ม. 7 ต.วังม่วง อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น พร้อมชาวบ้านประมาณ 30 คน เข้าพบ พ.ต.อ.เดชาธร ดีมี ผกก.สภ.เปือยน้อย เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีคนร้ายก่อเหตุ ฆ่านายอภินันชัย ปะริวันตา อายุ 17 ปี ลูกชายของนางอรดี จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมาเหตุเกิดบริเวณสะพานทางเข้าหมู่บ้านวังผือ ต.ขามป้อม อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น
นายปกาญจน์ นพศรี ประธานสภาทนายความจังหวัดพล กล่าวว่า ภายหลังจากที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เข้าร้องเรียนกับสภาทนายความ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จากเหตุดังกล่าวเนื่องจากคนก่อเหตุเป็นเยาวชน อายุ 16-17 ปี จำนวน 3 คน ซึ่งจากการสอบถามมารดาของคนตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปรับแฟนสาวที่ร้านขายของในตัวอำเภอเปือยน้อย ขากลับรถจักรยานยนต์เกิดโซ่ขาดอยู่ตรงบริเวณสะพาน
” ขณะที่ลูกชายกับแฟนสาวกำลังคุยกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรดี ก็มีกลุ่มผู้ก่อเหตุจำนวน 3 คน ซึ่งเป็นเยาวชนและเป็นนักเรียน เรียนในระดับมัธยม ขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน ตรงเข้าไปหาใช้มีดฟันที่หัวจนลูกชายผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุก็หลบหนีไป แฟนสาวจึงโทรเรียกรถกู้ภัยมารับลูกชายไปส่งที่ รพ.แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งขณะนี้ทราบมาว่า ตำรวจเปือยน้อย ได้ทำการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้วจำนวน 3 คน เป็นเยาวชนหมู่บ้านใกล้เคียงกัน อายุ 16 ปี จำนวน 1 คน และอายุ 17 ปี อีก จำนวน 2 คน รวมทั้งหมดเป็น 3 คน แต่ชาวบ้านเชื่อว่าตำรวจยังจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไม่หมด เพราะเยังมีนางนกต่อวางแผนล่อลวงมา”
นายปกาญจน์ กล่าวต่ออีกว่า ก่อนที่คนตายจะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปรับแฟนสาวนั้น มีโทรศัพท์โทรหาลูกชาย บอกให้ออกไปคุยกัน และเคลียร์กัน เรื่องแฟนสาวคบหากับชายอื่น ลูกชายจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป แล้วก็มาถูกฆ่าตาย จึงเชื่อว่า มีนกต่อโทรเรียกลูกชายออกจากบ้าน เพราะ 1 ใน 3 ของคนก่เดหตุ คือชายวัยรุ่นที่แอบคบหากับแฟนสาวคนตาย เมื่อสบโอกาส ที่โซ่รถจักรยานยนต์ขาด จึงเขาทำร้ายลูกชายจนตาย ส่วนฝ่ายหญิงปลอดภัย จึงเชื่อว่านกต่อ รู้ความเคลื่อนไหวของลูกชาย จนก่อเหตุฆ่าลูกชายจนสำเร็จ
ขณะที่ พ.ต.อ.เดชาธร ดีมี ผกก.สภ.เปือยน้อย กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 11 ธ.ค. หลังจากได้รับรายงาน ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกัน และมีผู้เสียชีวิตมาเสียชีวิตมาที่โรงพยาบาลเปือยน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ก็ไปตรวจที่เกิดเหตุทันที หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สืบถามพยานบุคคล พยายามแวดล้อมต่างๆว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุมี 3 คน เป็นเยาวชน มีบ้านอยู่ในพื้นที่อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับอำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนก็ได้ติดตามไปทันที และสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนซึ่งเป็นเยาวชน ชายอายุ 16 ปี 1 คน และเยาวชนชายอายุ 17 ปี อีก 2 คน
“หลังจากนำตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนส่งพนักงานสอบสวนแล้ว ในวันที่ 12 ธ.ค. ก็ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น จากนั้นก็ต้องว่ากันตามขั้นตอนของทางศาลว่าจะให้ประกันตัว หรือของควบคุมตัวเพราะเป็นดุลพินิจของศาล เพราะตำรวจก็มีหน้าที่สอบสวนและทำสำนวนส่งพนักงานอัยการและศาลเท่านั้น ส่วนการสอบสวนนั้น พนักงานสอบสวนได้สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าที่ก่อเหตุครั้งนี้ เนื่องจากฝ่ายหญิงคบหากับคนตายมาก่อน แต่เลิกกันแล้ว และฝ่ายหญิงได้คบหากับฝ่ายชาย อายุ 17 ปี ที่เป็นผู้ต้องหาและเป็นมือมีด ในช่วงเย็นวันเกิดเหตุ คนตายออกมาหาเพื่อน และได้เรียกฝ่ายหญิงออกมาพบพูดคุยกัน ในขณะที่ฝ่ายมือมีดและเพื่อนก็นั่งดื่มกินกันอยู่ใกล้ๆกับจุดที่ฝ่ายหญิงนั่งเล่นอยู่ริมสระวงศ์ เมื่อฝ่ายมือมีดเห็นฝ่ายชายที่เป็นแฟนเก่าออกไปกับฝ่ายหญิง จึงถือมีดตามไป พบว่าฝ่ายชายที่เป็นแฟนเก่าและฝ่ายหญิง อยู่ด้วยกันสองคน จึงใช้มีดดาบสปาต้าฟัน โดยมีเพื่อนอีก 2 คนที่ไปด้วยกัน ใช้ท่อนไม้รุมตี รุมทำร้าย จนบาดเจ็บสาหัส จากนั้นก็พากันหลบหนี กลับบ้าน จนถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ และถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”
ผกก.สภ.เปือยน้อย กล่าวต่ออีกว่า หลังจากได้คุยกับทางญาติและมารดาของผู้ตายที่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ ตำรวจติดตาม ผู้ต้องหา ได้ในเวลา 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุจับกุมและดำเนินคดี รวบรวมพยานหลักฐานอย่างครบถ้วน ได้แจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาตรวจที่เกิดเหตุ มาเก็บหลักฐานอาวุธมีด ของกลาง วัตถุพยาน ดีเอ็น ตั้งแต่ช่วงสายของวันเกิดเหตุ ส่วนกรณีที่ญาติยังติดใจว่าเจ้าหน้าที่ยังจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ครบ เพราะยังมีนางนกต่ออยู่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุว่าจะพัวพันไปถึงใครบ้าง ตำรวจก็จะต้องตามจับกุมมาดำเนินคดีจนหมดทุกคนอย่างแน่นอน
“ส่วนในเรื่องของการเยียวยา ค่าสินไหมทดแทนและค่าเสียหาย ได้แนะนำมารดาของผู้ตาย ว่าสามารถยื่นคำ ร้องขอเยียวยาได้ช่องทางใดบ้าง เช่น ยื่นต่อยุติธรรมจังหวัด เกี่ยวกับค่าทดแทนค่าเสียหาย ผู้เสียหายทางคดีอาญา และค่าเสียหายที่จ ยื่นต่อศาลในการไต่สวน ก่อนที่ศาลจะสืบพยาน โดยยื่นผ่านทั้งศาลหรือทางอัยการ ทางอัยการก็จะประสานมาว่า ทางผู้เสียหายมีสิทธิ์ใดบ้างที่จะเรียกร้อง ค่าเสียหาย ตลอดจนการเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่ง ในหมู่ละเมิด ซึ่งได้คุยกับทางทนายแล้วและทนายก็เข้าใจแล้ว”