ตร.ภ.4 รวบเจ้าของร้านอาหารชื่อดังกาฬสินธุ์ สะสมอาวุธปืนนานาชนิด พร้อมเครื่องกระสุนนับพันรายการ เจ้าตัวสารภาพสิ้นสั่งซื้อผ่านโลกออนไลน์รับซื้อมาสะสมทุกชนิด โดยเฉพาะปืนที่มีทะเบียน “ณัฐนนท์” สั่งขยายผลหาที่มาทุกรายการ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 (บก.สส.ภ.4 ) จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4,พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ รอง ผบก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายสถาพร ปัดทุม หรือต๋อง อายุ 28 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้น 17 กระบอก,อาวุธปืนยาว 7 กระบอก,ปืนไทยประดิษฐ์ 6 กระบอก และเครื่องกระสุน 2,342 นัด หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 3ฯ จับกุมตัวได้ภายในบ้านพัก ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์
พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมผ่านโลกโซเชียลมีเดียเพื่อติดตามหาข่าวการกระทำความผิดโดยเฉพาะเรื่องอาวุธปืนซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและเข้มงวดตรวจสอบทุกกรณี จนกระทั่งพบว่าเพจเฟสบุ๊คชื่อ “ต๋อง งง” มีการโพสต์ภาพการใช้อาวุธปืน สะสมอาวุธปืนและคลิปภาพการใช้ปืนอละซ้อมยิงปืน จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม มาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งสืบทราบว่าเจ้าของเฟสบุ๊คดังกล่าวเป็นเจ้าของร้านอาหารและเป็นนักธุรกิจในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้ทำการตรวจสอบชื่อที่อยู่และข้อมูลการขออนุญาตครอบครองอาวุธปืนจากนายทะเบียนพบว่านายสถาพร ไม่เคยได้รับอนุญาตแต่อย่างใด จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายศาล จ.กาฬสินธุ์ เข้าทำการตรวจสอบและตรวจค้นในบ้านพัก
“จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนและเครืองกระสุนนับพันรายการซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน โดยทั้งหมดสามารถใช้งานได้จริง และจากการตรวจสอบพบว่า มากกว่าครึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียน รวมทั้งอาวุธปืนไทยประดิษฐ์และปืนชนิดต่างๆ และจากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหามีความชื่นชอบอาวุธปืนเป็นการส่วนตัวจึงทำการซื้อขายผ่านโลกออนไลน์และซื้อจากผู้ที่มาเสนอขาย ในราคาตั้งแต่กระบอกละ 80,000-200,000 บาท โดยเฉพาะปืนที่มีทะเบียนซึ่งมีราคาแพง ซึ่งต้องตรวจสอบหาที่มาขอปืนอย่างละเอียดว่าซื้อและขายได้อย่างไร”
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่าแม้ผู้ต้องหาจะระบุว่าเป็นนักธุรกิจและเจ้าของร้านอาหาร โดยชื่นชอบอาวุธปืนและชอบสะสมเป็นการส่วนตัว แต่จากพฤติกรรมและของกลางที่ตรวจยึด มานั้นต้องตรวจสอบในภาพรวมทั้งหมดว่าปืนมีที่มาอย่างไร มีประวัติการเคยนำไปก่อเหตุหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมนายสภาพร ไม่เคยก่อเหตุใดๆมาก่อน จึงต้องสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงตั้งข้อกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมทั้งควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป