เวลา 09.00 น.วันที่ 19 ก.ค.57 ที่วัดรองขุน อ.แม่ลาว จ.เชียงราย พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ชื่อดังชาวเชียงราย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายผู้รังสรรค์ผลงานการสร้างวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย รวมทั้งศิลปินชาวเชียงราย 108 คน องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้จัดให้มีพิธีทำบุญและสืบชะตาเมืองเชียงรายภายใต้ชื่องาน “เพื่อแผ่นดินเชียงรายอันเป็นที่รัก” ณ วัดร่องขุ่น ภายหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วยความแรงมาตรามาตราวัดริกเตอร์กว่า 6.3 แมกนิจูดจนเกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิต สิ่งปลูกสร้าง สาธารณูปโภคและทางด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยวของจังหวัดอย่างหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าพิธีจัดให้มีขบวนแห่ตามประเพณีล้านนา นำโดยพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี และตามด้วยศิลปินดานักแสดงชื่อดังหลายคน เช่น ปนัดดา วงศ์ผู้ดี น.ส.เขมนิจ จามิกรณ์หรือแพนเค้ก น้องมะนาว และน้ำตาล ฯลฯ โดยขบวนมีจำนวนหลายร้อยคนตามท้ายด้วยขบวนภาพวาดประดับบนตุงจากศิลปินจำนวน 108 คน เคลื่อนจากบริเวณด้านหน้าวัดเข้าไปยังโรงธรรมใกล้กับอุโบสถขาว ด้วยขบวนที่มีความงดงามโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัดร่องขุ่นทำให้นักท่องเที่ยวที่มีทั้งชาวไทยและต่างประเทศรวมทั้งผู้เข้าไปร่วมพิธีนับหมื่นคนมีความประทับใจและพากันถ่ายภาพอย่างคึกคัก ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาโปรยปราย
จากนั้น พล.ต.พัฒนา มาตร์มงคล ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) ได้เป็นประธานฝ่ายฆารวาสในการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระราชสิทธินายก เจ้าคณะ จ.เชียงราย และเจ้าคณะวัดพระสิงห์ พร้อมพระสงฆ์จำนวน 11 รูปประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาและสวดพระพุทธมนต์ รวมทั้งสวดสืบชะตาตามประเพณีล้านนาท่ามกลางเข้าผู้ร่วมพิธีซึ่งต่างประทับใจในพิธีที่งดงามและศักดิ์สิทธิ
รวมทั้งอธิฐานไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงจากภัยธรรมชาติเกิดขึ้นอีก
พระอาจารย์ ว.วชริเมธี กล่าวว่าพิธีนี้ไม่อาจจัดขึ้นได้เป็นประจำทุกปีหรือบ่อยครั้งและพิธีกรรมเช่นนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นพิธีที่จัดขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามกฎของอนิจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อธรรมชาติได้ทำให้เกิดปรากฎการณ์ดังกล่าวขึ้นแล้วก็สร้างผลกระทบจึงถือเสียว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติที่ต้องการแสดงออกมา ในฐานะประชาชนชาวเชียงรายที่อาศัยอยู่ก็จึงต้องมีการทำพิธีครั้งนี้เพื่อ ” บังอบายเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจเมือง” เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและกำลังใจให้ประชาชนได้มีความเข้มแข็งต่อไป.