วันที่10 มค. 66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ โรงเรียนบ้านป่าข่าตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่ใจ จ.พะเยา ที่ได้มีชาวบ้าน ผู้ปกครองและครูโรงเรียนบ้านป่าข่า ร่วมกันอนุรักษ์ป่าชุมชนในโรงเรียนเพื่อให้เป็นแหล่งเที่ยวทางธรรมชาติของป่าไม้หลากหลายสายพันธ์ุที่มีอายุหลายร้อยปี ที่ยืนต้นสูงอยู่ด้วยกันในสวนป่า และถือว่าเป็นผืนป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ของหมู่บ้านเพียงแห่งเดียวของอำเภอแม่ใจที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันและทางชาวบ้านและโรงเรียนบ้านป่าข่า จะทำการฟื้นฟูผืนป่าแห่งนี้ไว้ควบคู่กับชุมชน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ด้วยเพราะมีต้นไม้แฝดคู่ต้นตะเคียนทอง-ต้นรวงผึ้ง อายุกว่า100ปียืนต้นเคียงคู่กันในสวนป่าที่หาดูได้ยาก
จากการสังเกตุสวนป่าโรงเรียนบ้านป่าข่ามีพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดเช่นไม้ประดู่ไม้ตะเคียนไม้สักทอง ต้นรวงผึ้ง ฯลฯ และที่มีต้นไม้ใหญ่ที่แปลกและยืนต้นคู่กันมานาน หลายร้อยปีคือต้น ตะเคียนทองและต้นรวงผึ้ง ยืนต้นเคียงคู่กันสูงกว่า50เมตร และเป็นต้นไม้แฝดคู่ที่มีเพียงคู่เดียวในสวนป่าแห่งนี้ ในพื้นที่หลายไร่ และมีสัตว์ป่า อาทิกระรอก นก ผึ้ง แตน ต่อ มาทำรังบนยอดต้นไม้ หลายชนิดมาอาศัยอยู่ ด้วยกับต้นไม้ที่สูกว่า30-50เมตร หรือขนาด5-6คนโอบ ให้ความร่มรื่นไปทั่วบริเวณ
นายณรงค์ สารเร็ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งป่าข่าต.ศรีถ้อย อ.แม่ใจ จ.พะเยา เล่าว่า ทางโรงเรียนร่วมกับชาวบ้านชุมชน บ้านป่าข่า ได้ร่วมกันอนุรักษ์ สวนป่าในโรงเรียน เพื่อให้เป็น แหล่งท่องเที่ยว และศึกษาค้นคว้าของพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่มีจำนวนมาก อีกทั้งยังมีต้นไม้แฝดคู่ต้นตะเคียนทอง-ต้นรวงผึ้ง ที่มีความแปลกและเป็นต้นไม้คู่รักต่างสายพันธ์มีอายุ หลายร้อยปี และยังเป็นป่าชุมชนเพียงแห่งเดียว ในหมู่บ้าน ของตำบลศรีถ้อยอำเภอแม่ใจที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้หลากหลาย ชนิด อาทิต้นตะเคียนทอง ต้นไม้สักทอง ไม้ประดู่ไม้รวงผึ้งและไม้อื่นๆหลากหลายสายพันธุ์ รวมทั้งมีสัตว์ป่าหลากหลายชนิดมาอาศัยอยู่ด้วย ทางโรงเรียนจึงได้ร่วมกันอนุรักษ์ไว้และจะเตรียมฟื้นฟู ให้เป็นแหล่งศึกษา ค้นคว้า เกี่ยวกับพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนอีกด้วย
สัมภาษณ์นายณรงค์ สารเร็ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งป่าข่าต.ศรีถ้อย อ.แม่ใจ จ.พะเยา และชาวบ้านป่าข่า
ปัณณวิชญ์ อยู่ดี จังหวัดพะเยา