เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ม.ค. 2567 ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัย เขตเทศบาลนครขอนแก่น คณะครูผู้ปกครองจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรและกำหนดจัดการแสดง และกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติปีนี้ อย่างสนุกสนาน ในขณะเดียวกันเด็กที่หลุดออกนอกระบบการศึกษาในพื้นที่เขตเทศบาลนครขอนแก่นมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายอังคาร ชัยสุวรรณ รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัย กล่าวว่า จากการที่ทีมงานไร้พรหมแดนเทศบาลนครขอนแก่นที่ทำงานเรื่องเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาในเขตเทศบาลนครขอนแก่นครอบคลุมทั้งหมด 95 ชุมชน ซึ่งจากการสำรวจพบว่าแต่ละชุมชนมีเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาไม่ต่ำกว่า 10-20 คน โดยภาพรวมของเขตเทศบาลนครขอนแก่นมีมากกว่า 2,000 คน ที่หลุดออกจากระบบการศึกษาจากโรงเรียน ไปแล้วและเป็นเด็กแว้นเด็กเร่ร่อนรวมกลุ่มทำกิจกรรมในเชิงลบ
“จากสถิติ 2,000 กว่าคนถือว่าเป็นตัวเลขที่เยอะและมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลต่างๆไม่ว่าจะเป็นเหตุผลของเด็ก สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปแม้แต่ระบบการศึกษาที่ไม่ตอบโจทย์สำหรับเด็กบางกลุ่มที่ต้องการความหลากหลายในการจัดการเรียนการสอน เป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กเหล่านั้นหลุดออกจากระบบการศึกษาไปเรื่อยๆ ส่วนการติดตามกลุ่มเด็กที่หลุดออกจากระบบอย่างโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัยมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนมีครูออกไปติดตามดูว่าเด็กที่ไม่มาโรงเรียนเพราะอะไร เด็กเป็นอะไรมีเหตุผลอะไร ครูจะเข้าไปตามถึงครอบครัวถึงชุมชน แต่ด้วยบางจังหวะและโอกาสหรือข้อจำกัดของครูซึ่งต้องดูแลเด็กจำนวนมากและมีภารกิจงานเรื่องการสอนเยอะการลงไปติดตามอาจจะได้ไม่เต็มที่”
นายอังคาร กล่าวต่ออีกว่า ทีมงานไร้พรหมแดนนครขอนแก่น เป็นการรวมตัวกันเป็นคณะทำงานดูแลเด็กชายขอบในสังคมเมืองขอนแก่นมีการเข้าไปหาเด็กๆเหล่านี้ ทั้งเด็กแว้น เด็กแก๊ง เด็กเร่ร่อนพยายามดึงมาจัดกระบวนการการเรียนรู้ฟื้นฟูเยียวยาและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กกลุ่มนี้ สำหรับเด็กที่ออกจากนอกจากนอกระบบไปแล้วจะกลับเข้าสู่ในระบบโรงเรียนเหมือนเดิม จากประสบการณ์ของทีมงานไร้พรหมแดนนครขอนแก่น เราต้องการพัฒนาเด็กนอกระบบและส่งกลับเข้ามาในโรงเรียนและส่งกลับไปที่ครอบครัว
“จากบทเรียนที่ทำมาใน 1 ทศวรรษที่ผ่านมาน้อยมากไม่ถึง 1 % ที่นำกลับเข้ามาสู่ในระบบโรงเรียนเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เราทำได้จากเด็กที่หลุดจากระบบโรงเรียนที่เหมาะที่สุดและทำได้เห็นผลที่สุดคือการดึงกลับเข้าสู่ระบบ กศน. และส่งเสริมเรื่องอาชีพ การดูแลชีวิต การดูแลครอบครัวหรือส่งเสริมให้มีครอบครัวที่อบอุ่นสร้างอาชีพทักษะชีวิตให้ดำรงอยู่ได้ในสังคมจะเห็นผลเป็นรูปธรรมมากกว่าการดึงกลับเข้าสู่ในระบบโรงเรียนต่อไป”