วันที่ 24 ม.ค. 67 พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช รอง ผยก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.สมเกียรติ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน ได้นำกำลัง ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย กก.สส.ภ.จว.เชียงราย บก.สส.ภ.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. แม่จัน ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกติดตาม นายดิษฐ์ จะอื้อ ชาวบ้านหมู่ 4 ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย ผู้ต้องหาคดีนำพาคนต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวน 2 คนเข้าเมือง ได้หลบหนีออกจาก สภ.เมืองเชียงราย ระหว่างกระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา สนธิกำลังกันแกะรอยออกติตตาม กระทั่งมีเบาะแสว่าผู้ต้องหาได้ไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน ในพื้นที่บ้านห้วยแม่ซ้าย ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย แล้วขับผ่านพื้นที่อำเภอแม่จัน ปลายทางเชื่อว่าน่าจะออกชายแดนด้านอำเภอแม่ฟ้าหลวง
จากการติดตามจับกุม มีผู้พบรถที่ผู้ต้องหาขับหลบหนีกำลังจะขึ้นดอย จึงให้จุดตรวจสกัดบ้านสามแยกอาข่าจัดกำลังไว้รอจับกุม แต่นายดิษฐ์ไหวตัวทัน รู้ว่ากำลังถูกสกัดจึงทิ้งรถหนีลงข้างทางไม่ไกลจากจุดตรวจเท่าใดนัก เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดรถและปูพรมปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่โดยรอบ เบื้องต้นในรถพบประทัดปิงปองอยู่จำนวนหนึ่ง เชื่อว่าคนร้ายน่าจะดัดแปลงเพื่อเป็นระเบิดแสวงเครื่องใช้ในการต่อสู้เจ้าหน้าที่ระหว่างหลบหนี
โดย พล.ต.ต.มานพ สั่งการให้ทีมติดตาม ใช้โดรนตรวจจับความร้อนบินขึ้นเหนือพื้นที่ที่คาดว่านายดิษฐ์หลบซ่อนตัว โดยเน้นย้ำให้ทีมติดตามใช้ความระมัดระวัง หากเจอตัวแล้วผู้ต้องหาต่อสู้ขัดขืนให้ใช้วิจารณญาณในการจับตายได้ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่พบเบาะแสของคนร้าย สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ โดยจะมีรางวัลเป็นค่าเบาะแสนำจับให้จำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่าที่ผ่านมา นายดิษฐ์ เคยถูกจับกุมในข้อหา “ลักทรัพย์ ในเคหสถาน” ของ สภ.แม่ยาว และ ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน” สภ.พญาเม็งราย มาก่อนแล้ว
