เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 18 ก.พ. 2567 ที่ศูนย์ประสานงานเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน ซึ่งตั้งอยู่ริมบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มคนที่รักและชื่นชอบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมตรี พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดงและรวมตัวกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อร่วมแสดงความยินดีและส่งกำลังใจให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีในดวงใจ ภายหลังจากได้รับการยืนยันและปรากฎภาพของอดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับบ้านพัก โดยที่คนในครอบครัวชินวัตร นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางมารับอดีตนายกรัฐมนตรีจากโรงพยาบาลตำรวจกลับบ้านพัก ตามการประกาศพักโทษของกระทรวงยุติธรรม
โดยกลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น กว่า 50 คนได้มารวมตัวกันเพื่อจัดทำคลิปภาพส่งกำลังใจเพื่อส่งให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี และสมรชิกพรรคเพื่อไทย รวมทั้งการเผยแพร่ภาพในโลกโซเชียลมีเดีย โดยมีข้อความว่า “กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น ขอเป็นกำลังใจให้กับท่านนายกทักษิณ ชินวัตร ขอให้ท่านมีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีพลังใจที่เข้มแข็ง ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย สู้ๆนะคะ”
ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำคนเสื้อแดง ภาคอีสาน กล่าวว่า คลิปกำลังใจจากใจคนเสื้อแดงขอนแก่น ที่จัดทำขึ้นนี้นั้นได้ส่งเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย และกลุ่มไลน์ของคนเสื้อแดงทั่วทั้งประเทศ ซึ่งไม่ใช่แต่เฉพาะการส่งกำลังใจจากใจของคนขอนแก่นเท่านั้น ทราบมาว่ามีหลายจังหวัดก็จัดทำคลิปกำลังใจเผยแพร่เช่นกัน เนื่องจากทุกคนไม่อยาทกี่จะเดินทาไปกรุงเทพฯในวันนี้ จนเกิดความชุลมุน หรือเกิดเหตุการณ์ใดๆ วันนี้เป็นวันที่คนในครอบครัวชินวัตร และผู้ที่รักและเคารพในอดีตนายกรัฐมนตรีนั้นดีใจที่สุด เพราะเป็นวันที่ทุกคนรอคอย ภายหลังจากต้องถูกกระทำจากการยึดอำนาจของระบอบเผด็จกาลมานานกว่า 17 ปี
“ คุณทักษิณ เข้ารับการพักโทษอย่างถูกต้องและทำตามระเบียบของกระทรวงยุติธรรมทั้งหมด จนวันนี้ทุกคนได้เห็นภาพของอดีตนายกรัฐมตรีในดวงใจที่ได้รับการพักโทษและเดินทางกลับบ้านพร้อมกับครอบครัว อย่างไรก็ตามนับเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้น เนื่องจากท่านอดีตนายกรัฐมนตรีเคยปวารนาไว้ว่าเมื่อพักโทษหรือพ้นโทษออกมาแล้วจะขอทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างเต็มที่ต่อไป ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงน่าจะเกิดขึ้นแน่นอน”
ผศ.พรรณวดี กล่าวต่ออีกว่า ไม่อยากจะกล่าวถึงการปรับ ครม. เพราะงานของคนเสื้อแดงและงานภาคประชาชนนั้นไม่ยุ่งกับการเมือง แต่เมื่อฟังเสียงจากภาคประชาชนแล้วพบว่าส่วนใหญ่อยากให้มีการประเมินผลงานคณะรัฐมนตรี ทุก 6 เดือน ซึ่งคนที่ไม่มีผลงานก็ควรที่จะปรับออก เพราะพรรคเพื่อไทยนั้นมีกฎคุมเข้มในเรื่องของการประเมินผลงาน ส.ส.และรัฐมนตรีอยู่แล้วว่าใครทำงาน หรือใครไม่ทำงาน ดังนั้นถึงเวลาที่จะต้องประเมินผลงานทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว โดยไม่อยากเจาะจงว่าใครควรอยู่หรือไปเพราะทุกคนรู้ตัวเองอยู่แล้ว