ดีเอสไอ สอบปากคำผู้สมัครครูผู้ช่วย สพป.ขอนแก่นเขต 2 หลังพบการทุจริตนำข้อสอบมาขาย

ดีเอสไอ บุกขอนแก่นสอบปากคำผู้สมัครครูผู้ช่วย สพป.ขอนแก่นเขต 2 หลังพบการทุจริตนำข้อสอบมาขายเล่มละ 300,000- 600,000 บาท “วิษณุ” ย่ำชัดเร่งสืบสวนพยาน-ผู้ร้องและคณะกรรมการทั้งหมด พบผิดฟันไม่เลี้ยง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 มี.ค.  2567 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมด้วย นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรม ดีเอสไอ และนายสุทธิกร สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนสอบสวนการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายมดีเอสไอ นำคณะทำงานสืบสวนดีเอสไอ เข้าทำการสอบปากคำผู้สมัครครูผู้ช่วย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในลำดับสำรองตามบัญชีรายละเอียดการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปี 2566 ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ได้จัดทำการสอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 19-20 ส.ค.2566 และได้ประกาศผลการสอบ ผู้ที่ผ่านการสอบและลำดับสำรองให้มารายงานตัวที่ สพป.ขอนแก่นเขต 2 ในวันที่ 28 ส.ค.2566 จนกระทั่งมีการร้องเรียนถึงการทุจริตการสอบดังกล่าวเกิดขึ้น โดยมีผู้สมัครสอบและติดในลำดับรายชื่อสำรอง ในตำแหน่งต่างๆ ตามหมายเรียกของกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาให้ปากคำรวมกว่า 20 คน

ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กล่าวว่า คดีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการร้องเรียนจากนายสมชาติ สง่าภาคภูมิ ผู้แทนภาคประชาชนในคณะกรรมการศึกษาธิการ จ.ขอนแก่น เพื่อเอาผิดและดำเนินคดีกับ นายเสรี ขามประไพ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 2 ในขณะนั้น ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป.อุทัยธานี เขต 1 และ นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงษ์ ประธาน อกคศ.สพป.ขอนแก่น เขต 2 หลังพบการกระทำการทุจริตจัดทำคู่มือเตรียมสอบครูผู้ช่วย ในสังกัด สพป.ขอนแก่น เขต 2 จากการสอบแข่งขันดังกล่าว ซึ่งในการสอบครูผู้ช่วยนั้นมีการสอบทั่วประเทศ แต่พบความผิดปกติคือที่ สพป.ขอนแก่น เขต 2 เนื่องจากมีข้อมูลที่ผู้ร้องระบุว่ามีการจัดทำคู่มือการสอบและทำตำหนิ ที่ตรงกันกับข้อสอบ และนำมาจำหน่ายเล่มละ 600,000 บาท ทั้งยังคงมีการจัดการสอบที่ไม่โปร่งใส คือไม่มีหน่วยงานกลางมาจัดสอบ โดยที่สำนักงานเขตต่างๆ มีการจัดการสอบโดยมหาวิทยาลัย ขณะที่การสอบก็ดำเนินการกันเอง ไม่มีตำรวจคุ้มกัน หรือการจัดสอบที่รัดกุม ดังนั้นการสืบสวนวันนี้ จึงมีการเรียกสอบปากคำผู้ที่สมัครสอบ โดยเน้นบุคคลที่ติดลำดับสำรอง และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ 44 ตำแหน่งที่เปิดสอบว่ามีส่วนรู้เห็นหรือมีการกระทำตามที่ผู้ร้องระบุไว้หรือไม่

“ผู้ร้อง ได้ทำการร้องเรียนทั้งในส่วนของ กระทรวงศึกษาธิการ และ ดีเอสไอ โดย ขณะนี้ สพฐ.ได้ทำการสืบสวน รวมทั้ง ปปช.ก็ได้ทำการสืบสวนเช่นกัน โดยขณะนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้มีคำสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ของ สพป.ขอนแก่น เขต 2 และ ประธาน อกคศ.สพป.ขอนแก่น เขต 2 และมีการดำเนินการทางวินับกับคนที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ การสืบสวนชองดีเอสไอ ตามคำร้องที่ 27/2567 วันนี้จะสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องถึงคู่มือการสอบ ที่ถูกนำมาจำหน่ายเล่มละ 600,000 บาท ที่มีการทำตำหนิตรงกับข้อสอบที่ทำการสอบของ สพป.ขอนแก่น เขต 2 และในวันพรุ่งนี้จะเชิญ คณะกรรมการที่รับผิดชอบในการจัดสอบและออกข้อสอบมาสอลสวน ดังนั้นสำนวนการสืบสวนและการสอบสวนที่ดีเสไอ กำลังดำเนินการนั้นไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้แต่พบพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์หลายอย่างจึงจะต้องสืบสวนและสอบสวนให้ละเอียดและรัดกุมที่สุด”

ขณะที่นายสมชาติ สง่าภาคภูมิ ผู้แทนภาคประชาชนในคณะกรรมการศึกษาธิการ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ได้นำข้อมูลการทุจริตการสอบครูผู้ช่วย สพป.ขอนแก่น เขต 2 เข้าร้องเรียนกับ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเฉพาะเอกสารหลักฐานจากผู้สมัครสอบ 2 ราย ที่มีการจ่ายเงินให้กับ คณะกรรมการ อกคศ.ที่รับผิดชอบการสอบครั้งนี้ 600,000 บาทและอีกรายจ่ายให้กับคนที่มาติดต่อขายเอกสารให้ เป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท โดยหลักฐานทั้งหมดได้ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะกับ ผอ.สพป.ขอนแก่นเขต 2 ในขณะนั้น และ ประธาน อกคศ.สพป.ขอนแก่น เขต 2 เพื่อให้ผู้กระทำความผิดนั้นถูกนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และที่สำคัญคือข้าราชการครูที่เป็นพ่อพิมพ์และแม่พิมพ์ของชาติ จะมาทุจริตการสอบในลักษณะเช่นนี้ไม่ได้แล้วอย่างนี้จะไปสอนลูกหลานเราได้อย่างไร จึงมั่นใจว่าดีเอสไอจะทำการสืบสวนสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและเอาคนผิดมาลงโทษได้ทั้งหมด