เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6 มี.ค.2567 นางสุธาวัลย์ ริมผดี นายกเทศมนตรีตำบลโนนท่อน ลงพื้นที่ให้กำลังใจเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ บ.คำบอน ต.โนนท่อน หลังพบว่าขณะนี้เกษตรกรเริ่มทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตประจำปี 2567 เพื่อส่งจำหน่ายให้กับลานมันและพ่อค้าที่ประกาศรับซื้อตามรอบการผลิต โดยล่าสุดพบว่าราคามันสำปะหลังขณะนี้ราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตกันอย่างต่อเนื่องทุกวัน
นายประสิทธิ์ เดชอักษร อายุ 65 ปี เกษตรกรผู้ปลูกไร่มันสำปะหลัง กล่าวว่า ครอบครัวปลูกมันสำปะหลังทั้งหมดรวมกว่า 20 ไร่ โดยยอมรับว่าราคามันสำปะหลังปีนี้สูงกว่าหลายปีที่ผ่านมา ปี 2565 ราคาอยู่ที่ กก.ละ 2.50 บาท ปี 2566 ราคาขยับมาอยู่ที่ 3.50 บาท และมาปีนี้เพียงต้นปีราคาลานมัน บางแห่งรับซื้อสูงถึง 4 บาท ซึ่งหากราคารับซื้อสูงเช่นนี้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังพึงพอใจและยอมรับได้ เพราะไม่เคยมีปีใดที่ราคาขยับขึ้นมาสูงขนาดนี้ แต่ทั้งนี้ปัญหาที่สำคัญคือต้นทุน โดยเฉพาะราคาปุ๋ยที่สูงถึงกระสอบละกว่า 1,000 บาท จากเดิมเคยซื่อกระสอบละ 800 บาท
“ยอมรับว่าต้นทุนในการทำไร่มันสำปะหลัง นั้นแพงขึ้นทุกปี เริ่มจากการเตรียมแปลง 2 ครั้ง และยกร่อง ต้องเสียค่าแรงแล้วไร่ละ 900 บาท, ค่าปลูกไร่ละ 400 บาท ค่ากำจัดวัชพืชและใส่ปุ๋ย ครั้งละ 500 บาท,ค่าปุ๋ยกระสอบละ 1,000 บาทใช้ไร่ละ 1 กระสอบต่อปีและในช่วงนี้คือการเก็บเกี่ยวก็จะมีค่าแรงคือค่าตัดต้นเพื่อทำเป็นต้นกล้าสำหรับการปลูกฤดูกาลผลิตปี 67 ไร่ละ 300 บาท และการเก็บมันใส่รถไปขาบ คิดค่าแรงตันละ 350 บาท ดังนั้นเมื่อรายจ่ายต้นทุนที่แพงขึ้น ราคามันสำปะหลังในแต่ละปีหากรับซื้อที่ 3.50-4 บาทต่อ กก.ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม เพราะการปลูกมันสำปะหลังที่ ต.โนนท่อนนั้นปลูกได้ 1 รอบต่อปีเท่านั้น”
ขณะที่นางสุธาวัลย์ ริมผดี นายก ทต.โนนท่อน กล่าวว่า ด้วยสภาพพื้นที่ ต.โนนท่อนเป็นพื้นที่ราบสูง ดินเป็นดินร่วนปนทราย สลับกับพื้นที่ลุ่มน้ำ จึงทำให้ผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ จะเป็นข้าว,มันสำปะหลัง และไร่อ้อย ซึ่งจากข้อมูลพบว่าฤดูกาลผลิตปี 2562 ทั้งตำบลมีการปลูกมันสำปะหลัง 1,600 ไร่ แต่เมื่อราคาขยับขึ้น คนในชุมชนมีการเพิ่มพื้นที่การเพาะปลูกฤดูกาลผลิต 2566/2567 มากขึ้นกว่า 2,000 ไร่ และฤดูกาลผลิต 2567/2568 ที่จะเริ่มทำการปลูกตั้งแต่เดือน มี.ค.นั้นคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกเพราะด้วยราคารับซื้อที่เกษตรกรพึงพอใจ รวมทั้งสภาพพื้นที่ของ ต.โนนท่อนที่เหมาะต่อการปลูกมันสำปะหลังอย่างมาก
“ขณะนี้เทศบาลฯ ได้ประสานงานร่วมผู้นำชุมชน และ เกษตรกรในการเฝ้าระวังการลักลอบโจรกรรมมันสำปะหลังในพื้นที่ตลอดทั้งช่วงฤดูเก็บเกี่ยวนี้ หลังพบว่ามีหลายแปลงที่ถูกคนร้ายขับรถกระบะ หรือรถจักรยานยนต์พวงข้างมาดึงเอาหัวมันสำปะหลังจากไร่ของเกษตรกรไปจำหน่ายกันบ้างแล้ว”