ลำปาง พบป่าถูกแผ้วถางยึดถือครอบครองโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย หลังตรวจสอบจุดความร้อน ไฟไหม้เสียหายเกือบ100 ไร่ ค่าเสียหาย 5 ล้านบาท

นายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) สั่งการให้นายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) ประสาน นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ นายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ กำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ จังหวัดลำปาง สายที่ 1
ร่วมกับ กก.4 บก.ปทส.โดย พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. ร.ต.ต.วสุอนันต์ สารีพันธ์ รอง สว.(ป) กก.4 บก.ปทส.พร้อมลูกชุด เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.18(แม่เรียง) นายสุรชัย แสงสิริ ผอ.ทสจ.ลำปาง ตร.ศปทส.ภ.5 ตำรวจ นปพ.ภ.จว.ลำปางตร.ตชด.33 ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะคา และส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ การลักลอบเผาป่า แผ้วถางป่าเป็นบริเวณกว้างเหตุเกิดพื้นที่ถูกบุกรุกบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ไฮ บ้านนาแก้วตะวันออก หมู่ 3 ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง จำนวน 2 จุด

โดยจุดแรก พบมีการแผ้วถางป่าโล่งเตียน เผาเศษกิ่งไม้ตอไม้เสียหายทั้งหมด มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างที่พักอาศัยในที่เกิดเหตุ 1 หลัง มีรั้วรอบขอบชิด ตรวจสอบพบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกไปทั้งหมด จำนวน 51-3-02 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 3,531,979 บาท ส่วนจุดที่ 2 อยู่ไม่ห่างกันมากนักพบป่าถูกแผ้วถางเผาเสียหายทั้งหมด พื้นที่ถูกบุกรุก จำนวน 40-0-50ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 2,738,768 บาท เบื้องต้นไม่พบตัวผู้กระทำผิดคาดว่าหลบหนีเข้าป่าก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาถึง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการอายัดและบันทึกจับกุม
พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิด กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ,มาตรา 72 ฐาน”ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครอง เพื่อตนเองและผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน”ก่อสร้าง เผาป่า ยึดถือครอบครองป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เกาะคา จ.ลำปาง ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ส่วนการตรวจยึดจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าลาดตระเวนป้องกันการลักลอบเข้าป่า ลักลอบเผาป่าล่าสัตว์ และตรวจสอบจุดความร้อนในพื้นที่ โดยพบว่ามีการแผ้วถางป่าและเผาป่าเป็นบริเวณกว้างและจากการตรวจสอบผ่านระบบดาวเทียม พบว่าอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายทันที