ทต.พระลับ ลุยจับรถบรรทุกดินน้ำหนักเกิน-ไม่ขออนุญาต 20 คัน “พงศ์ธร”ย้ำชัดใหญ่แค่ไหนก็จับ แนะผู้ประกอบการขออนุญาต-ทำตามกฎหมายให้ถูกต้อง และอย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อน

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 16 มี.ค. 2567 นายพงศ์ธร พิศาพิทักษ์กุล นายกเทศมนตรีตำบลพระลับ พร้อมด้วยนายอดิสรณ์ ชาธรรม รองประธานสภา ทต.พระลับ ,นายเฉลิมชัย แก้วกระจ่าง ผู้อำนวยการกองช่าง ทต.พระลับสนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยพระลับ ,สภาเทศบาลตำบลพระลับ ลงพื้นที่ร่วมกับฝ่ายปกครองตำบลพระลับ คณะกรรมการหมู่บ้านบ้านผือ หมู่ที่ 1,2และ 19 ร่วมกันสกัดกั้นรถบรรทุกขนดิน ที่ขับผ่านเส้นทางหมู่บ้านบ้านผือ เพื่อตรวจสอบน้ำหนักบรรทุก หลังได้รับการร้องเรียนว่ารถบรรทุกดิน ขับในชุมชนด้วยความเร็ว ก่อให้เกิดฝุ่นละอองจำนวนมากสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน โดยสามารถสกัดกั้นและจับกุมได้รวม 20 คัน ขณะขับรถผ่านในเส้นทางดังกล่าว

นายพงศ์ธร พิศาพิทักษ์กุล นายก ทต.พระลับ กล่าวว่า  จากการตรวจสอบพบว่าทางผู้รับจ้างขนดินยังไม่มีการขออนุญาต ตามพ.ร.บ.ถมดิน ฯ กับทางเทศบาลฯแต่อย่างใด จึงได้แจ้งให้ผู้รับจ้างดำเนินการขออนุญาตและวางเงินประกันความชำรุดเสียหาย และดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอน ก่อนจะได้พิจารณาอนุญาตต่อไป

“หลังจากที่เทศบาลฯได้รับการประสานฝานจากชุมชนว่ามีรถบรรทุกดินจำนวนมากขับเข้ามาในพื้นที่ จึงได้ประสานงานร่วมทุกฝ่ายติดตามข้อมูลการข่าวและเฝ้าติดตามการดำเนินงานของรถบรรทุก และผู้ประกอบการจนมีพยานหลักฐานที่แน่ชัดจึงได้ประสานงานร่วมตำรวจ ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตั้งจุดสกัดจับกุม ซึ่งจากการตรวจสอบพว่าไม่ทีการขออนุญาตใดๆ ทั้งยังคงบรรทุกน้ำหนักเกินตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งขบวนรถบรรทุกดังกล่างทำให้ถนนและฝาบ่อพักทางระบายน้ำเกิดความเสียหายในหลายจุด สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างมาก”

นายพงศ์ธร กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบันการดำเนินการก่อสร้าง ทั้งในส่วนของโครงการบ้านจัดสรร การก่อสร้างและขยายบริษัทห้างร้านต่างๆ เนื่องจากพระลับเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใกล้เมือง รวมทั้งการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นบ้านในความรับผิดชอบของเทศบาลฯ มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ตรงกับความต้องการของประชาชนสอดรับนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจัง ดังนั้นการกระทำต่างๆต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับต่างๆที่เกี่ยวข่องทั้งหมด ดังนั้นคณะทำงานของเทศบาลฯ โดยผู้บริหาร,สมาชิกสภาฯ,ข้าราชการ,ผู้นำชุมชนและคณะกรรมการหมู่บ้าน ทั้งหมดเราทำงานเป็นทีม หากมีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีกก็จะมีการหาข่าวรวบรวมพบานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายและไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนในพื้นที่อย่างเด็ดขาด