สืบสวนท่องเที่ยว จับ บัญชีม้าแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกกดลิงค์คืนเงินประกันค่าไฟ เสียหายเกือบ 200,000 บาท พบมีหมายจับหลายพื้นที่

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 เม.ย.2567 พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2 (ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น) พร้อมด้วย พ.ต.ท.วโรดม ใบเรือ , พ.ต.ท.สุทธิรักษ์ ราชประโคน รอง ผกก.1 บก.ทท.2 และพ.ต.ท.ณัฐภัทร สุขชื่น สว.กก.1 บก.ทท.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยว เข้าทำการจับกุมตัว นายอภิสิทธิ์ ข้อยุ่น หรือเอ็กซ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 ม.9 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องพักไม่มีเลขที่ ซ.บ้านหนองขาม 3/5 ม.15 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ624/256 ลงวันที่ 19 ก.ย.25666 ในความผิดฉ้อโกงประชาชน

พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2 กล่าวว่า ภายหลังจากที่มี ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์ ซึ่งได้รับ แจ้งว่าจะมีการคืนเงินประกันไฟฟ้าให้และได้ส่งลิงค์จากการไฟฟ้ามาทางไลน์ ผู้เสียหายจึงได้กดเข้าไปดู โดยระหว่างดาวน์โหลดคนร้ายได้แจ้งว่าไม่ให้ทำอะไร ให้รอและพูดคุยเรื่องต่างๆ และขอบัญชีของผู้เสียหาย จึงได้ให้บัญชีธนาคารไทยพานิชย์ไป ระหว่างนั้นโทรศัพท์ของผู้เสียหายดับ ต่อมาโทรศัพท์ใช้ได้ตามปกติ จึงนำไปซ่อมที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแถวแจ้งวัฒนะ ทางศูนย์ฯได้ทำการล้างเครื่อง ต่อมา ผู้เสียหายได้รับใบแจ้งยอดค่าสินค้ารวมทั้งค่าธรรมเนียมรายปี จึงได้โทรศัพท์ไปยกเลิกค่าธรรมเนียม จึงทราบว่ามีการเบิกเงินสดผ่านทาง แอพพลิเคชั่น ยูทูป และทราบว่าเงินที่เป็นเครดิตของผู้เสียหายถูกโอนไปยังบัญชีธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020033903780

“ผู้เสียหายได้โทรศัพท์สอบถาม ธนาคารกรุงไทย ทราบว่า เงินได้ถูกโอนไปยังบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ เลขที่บัญชี 001911149981 ชื่อบัญชี นายอภิสิทธิ์ ข้อยุ่น จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 168,041.60 บาท และ เงินได้ถูกโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ เลขที่บัญชี 001911163977 ชื่อบัญชี นายศุภมงคล เนื่องขันตี เป็นจำนวน 3,300 บาท รวมความเสียหาย 171,341.60 บาท จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนซึ่งชุดสืบสวน กก.1 บก.ทท.2 ได้สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่ขอนแก่น จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบ นายอภิสิทธิ์ ยืนอยู่หน้าห้องเช่าดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นและเข้าทำการจับกุมตัว และนำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น”

พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ได้เดินทางกลับบ้านมาที่ขอนแก่น จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวติดตามจับกุม โดยได้รับการติดต่อจากผู้ว่าจ้างผ่านเพจเฟชบุคให้เปิดบัญชีให้ ซึ่งได้ค่าจ้างบัญชีละ 500 บาท จึงได้ทำการเปิดไว้ 2 บัญชีเมื่อช่วงกลางปี 2566 หลังจากเปิดบัญชีแล้วก็ได้ส่งรายละเอียดให้กับผู้ว่าจ้างไปและไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยซึ่งตำรวจไม่ปักใจเชื่ออย่างไรก็ตามภายหลังจากการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน” ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี พื้นที่ สภ.ปากเกร็ด ,เป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดนแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

โดยประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 556/2566 พื้นที่ สน.คลองตัน และ ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พร้อมทั้งควบคุมตัวนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป