ขอนแก่น ผู้ว่าฯ นำทีมลุยตรวจค้น จับกุม ยาเสพติดทั่วเมือง หลังสอบตกเรื่องยาเสพติด ระบาดหนัก อันดับ 2 ของประเทศ

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 15 พ.ค. 2567 ที่สภ.เมืองขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น สนธิกำลังร่วมทหาร,ตำรวจ, ฝ่ายปกครอง และ ปปส. ร่วมปล่อยแถวปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มเป้าหมายผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ภายใต้ ยุทธการพิทักษ์ขอนแก่น และ ปฏิบัติการไล่ล่าเด็ดปีกนักค้าอีสานเหนือ 252 จากนั้นกระจายกำลังกันลงพื้นที่ ตรวจค้นทั้งหมด 10 จุด

ก่อนที่กำลังเจ้าหน้าที่ จะเข้าตรวจค้น ที่บ้านเลขที่ 355 ม.12 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น โดยพบกับ นายนิรุทธิ์ เกตุแก้ว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 447 ม.3 ต.เมืองเก่า จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบุคคลที่พ้นโทษจากคดียาเสพติด มาจากเรือนจำเขาบิน ได้ 2 ปี แต่ยังมีพฤติกรรมพัวพันกับยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง

จากการตรวจค้นในบ้านพักยึดยาบ้าได้ 4 ถุงรวม 800 เม็ด ยาไอซ์ 2 ถุงเล็ก ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายที่ห้อยอยู่ที่ผนังบ้าน และพบโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง พร้อมเงินสดจำนวนหนึ่ง

 

 

จากการสอบสวนนายนิรุทธิ์ ให้การรับสารภาพว่า รับยาบ้ามาจากเครือข่ายยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 4,000 เม็ด แล้วนำมากระจายให้เครือข่ายในพื้นที่ขอนแก่นไปบางส่วนแล้ว หลงเหลือที่ยังไม่ได้ส่ง 800 เม็ด ก็ถูกเจ้าหน้าที่มาตรวจค้นและยึดได้

 

“สาเหตุที่ค้ายาบ้า เพราะหลังจากออกจากคุกมา หางานทำไม่ได้ ไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน ไม่มีรายได้เลี้ยงตัวเอง จึงติดต่อกับเครือข่ายยาเสพติด เอายาบ้ามาส่งให้คนเสพคนขายในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง รับค่าจ้างมาเลี้ยงตัวเอง บางครั้งก็รับค่าจ้างก็เป็นยาบ้า ทำให้ตัวเองอยู่ได้ จึงทำมาตลอด กระทั่งถูกจับกุมได้”

 

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขอนแก่นพบปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดสูง เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ทั้งที่มีการจับกุมได้เยอะ แต่การที่จับเยอะกลับมีปัญหา คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการเอาผลงาน

“ส่วนหนึ่งที่ทำให้จังหวัดสอบตกเรื่องยาเสพติด เพราะว่าได้กำชับกับฝ่ายปกครองให้รายงานหมู่บ้านที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดว่ามีกี่หมู่บ้าน แต่จากการรายงานมาคือตอนนี้ทุกหมู่บ้านมีปัญหาเรื่องยาเสพติดทั้งหมด ล่าสุดจึงได้ทำการเอ็กซเรย์ทุกหมู่บ้าน เอาบัญชีรายชื่อผู้ค้าผู้เสพ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งสีแดง สีเหลือง มาตรวจสอบ เพื่อคัดเอารายชื่อออกมา แล้วจึงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดเป้าหมายที่สำคัญที่สุด จนนำมาสู่การตรวจพบของกลางและบุคคลคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแบบชัดเจน ”